ศักดิ์สิริ มีสมสืบ หรือชื่อจริงคือ กิตติศักดิ์ มีสมสืบ (เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2500 ที่จังหวัดชัยนาท; ชื่อเล่น: ไวท์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2559, นักแต่งเพลง, นักเขียนผู้ได้รับรางวัลซีไรต์ ในปี 2535 จากเรื่อง มือนั้นสีขาว
ใช้ชีวิตในวัยเด็ก เรียนชั้นประถม มัธยมตอนต้นที่อำภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ในปี พ.ศ. 2515 – พ.ศ. 2520 ศึกษาศิลปะที่ โรงเรียนเพาะช่าง (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์) จนจบชั้นประโยควิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) วิชาเอกจิตรกรรมสากล ระหว่าง ปี พ.ศ. 2516 – พ.ศ. 2520 ได้ศึกษาศิลปะวรรณกรรมและปรัชญาจาก จ่าง แซ่ตั้ง และกวีคนสำคัญของประเทศ
พ.ศ. 2521 เข้ารับราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษา พ.ศ. 2524 จบคุรุศาสตรบัณฑิต เอกศิลป-ศึกษา จาก วิทยาลัยครูพระนคร
ปัจจุบัน เป็นนักเขียนอิสระ และนักแต่งเพลง สังกัด ยุ้งข้าว เรคคอร์ด
ผลงานนักเขียน
วรรณกรรมยุคปัจจุบัน ตอน ตะตั้งเทิ้งตั้ง (อ้ายต่ำคนปีนตาล)
เนื้อหาในหนังสือ
https://drive.google.com/file/d/1kiX5Wm6Rm90x0UPc9Q17W6f8FPtoU8Mh/view?usp=sharing
“ตะตั้งเทิ้งตั้ง” (อ้ายต่ำคนปีนตาล)
มันตัวเตี้ยต่ำ แต่ทำงานสูง
อ้ายต่ำคนปีนตาล
ต้นตาลไม่ยอมอยู่ใต้ร่มเงาใคร ชูยอดขึ้นท้าแดดลมไม่ระย่อ ทนร้อน ทนแล้ง น้ำมากก็ไม่กลัวหาก ท่วมยอดได้มันถึงจะยอมตาย
ตาลเก็บความหอมหวานไว้สูงใครอยากได้ให้ปืนเอาไม่มีใครอยากปีนป่ายมีก็ แต่มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อปืนตาลโดยเฉพาะแม้กระนั้นยังต้องพึ่งพะอง
อ้ายต่ำเป็นหนึ่งในหมู่คนในตาล
มันมีเมียสวยพริ้งและลูกชายเล็ก ๆ เพิ่งเตาะแตะลูกคือตวงใจคือดวงฝัน แต่ความฝันของมันมีตำหนิเด็กน้อยปากแหว่งเพดานโหว่
มันปลูกเพิ่งง่ายๆอยู่ในดงตาลของมันมีตาลในมือร่วมร้อยต้นแล้วยังเช่าเขาทำอีกร้อยกว่าหน้าแล้งตาลดีมันตื่น แต่เช้ามืดมีดวงไฟติดหน้าผากปืนตาลต้นแรกก่อนฟ้าจับสางจนเช้าจนสายพักกินข้าวแล้วปืนต่อขึ้น ๆ ลง ๆ จนเที่ยงจนบ่ายยันเย็นยันค่ำจึงลงกี่เที่ยวก็เหลือจะนับทั้งขาขึ้นและขาลงไม่มีทางลัด
ตอนเช้ามันเห็นตะวันขึ้นจากขอบฟ้าก่อนใครในหมู่บ้านนกกาเพิ่งตื่นตัวออกหากินมันร้องเพลงหวานเลื้อยบนยอดสูงเพลงของมันล่องลอยไปไกลสุดขอบดงตาลเมียมันได้ยินเสียงเพลงก็อุ่นใจว่าผัวตัวยังอยู่ข้างบนเมียมันเคี่ยวตาลพลางเหลียวแลลูกน้อยน้ำตาลในกระทะใหญ่เดือดบุด ๆ นางคอยตวาดลูกน้อยให้ถอยห่าง ๆ ไฟราเปลวก็เติมฟื้นฟื้นร่อยหรอ ก็ออกหาได้ซอไผ่ซื้อเขาเหมากอได้พื้นสะแกก้องแก้งพื้นเตาตาลลไม่มีอะไรดีเกินซอไผ่ให้เปลวสีน้ำเงินร้อนแรงและร้อนนานมันกับเมียใช้ฟื้นเปลืองกว่าใครทั้งย่านใช้ยันเตาเคี่ยวตาลทั้งวันยันค่ำ
ตอนเย็นมันเห็นตะวันตกดินเป็นคนสุดท้ายนกกาบินกลับรังเสียงจ้อกแจ้กที่ขอบฟ้าฝูงนกยางบินเป็นรูปลูกศรพุ่งข้ามฟ้าไปอีกพักใหญ่จนมีดหน้ามัวตาเต็มที่มันเห็นนกพลัดฝูกบินด้นไปในความมืดชาวบ้านทั่วไปแลเห็นแม่น้ำอย่างไกลก็แค่สุดคุ้ง แต่คนปืนตาลแม้ไม่อาจเห็นแม่น้ำเป็นงูยักษ์อย่างสายตานก แต่มันก็เห็นความคดเคี้ยวของสายน้ำได้อย่างเด่นชัด
มันเห็นได้กว้างไกลรอบด้านเห็นกลุ่มบ้านเรือนหลายหมู่เห็นตารางนารูปเหลี่ยมต่อเนื่องเป็นผืนกว้างเห็นท้องไร่และเนินแปลงผักขนัดสวนและหย่อมป่ารกร้างเห็นถนนหนทางหลายสายเห็นตีนฟ้าสุดตากไกลมองถนนสายสำคัญมันเห็นลำฝุ่นสีส้มอันเกิดจากรถราที่วิ่งไปมาระหว่างหมู่บ้านกับตัวเมือง
อันคนทำน้ำตาลหวานนั้นย่อมทำน้ำตาลเมาด้วย แต่คนปืนตาลมักไม่ยอมถลำยิ่งอ้ายต่ำยิ่งไม่แตะต้องข้องแวะมันสลดจุดจำว่าเพราะหลงรำน้ำตาลเมาพ่อมันจึงตกต้นตาลตาย
มือตีนมันไม่เคยพลาดแขนแมนข้อลำดีมือไม้ใหญ่หน้าอกผายไหล่ผึ่งตึงเต็มเตี้ยลำดำเป็นมันน่องเป็นมัดท่อนสะโพกเป็นปลี่ปั้นตูดปอด แต่แข็งเกร็งทั้งรูปร่างทรวดทรงและลีลาอาการดูรวมแล้วคล้ายพญาวานรทรงอิทธิฤทธิ์กำลังวังชามันอาจถอนต้นตาลขึ้นได้ทีเดียวจะว่าไม่เคยพลาดมันก็เคยพลั้งแรกเริ่มปีนตาลครั้งเมื่อนมเพิ่งตั้งพานสาวคนรักอ้อนมันให้ขึ้นเอาลูกตาลอ่อนมาเฉาะกินความทะนงในข้อลำและความอยากอวดฤทธิ์มันฉวยขดเชือกสำหรับโรยตาลมาคล้องไหล่พร้อมฉุดมือสาวซึ่งต่อมากต่อมากลายเป็นเมียมันไปยังต้นตาลเดี่ยวกลางทุ่งตาลนอกคอกต้นนี้กระเด็นจากดงมายืนเดียวจึงมีพะองพาดนี่แหละเหตุที่มันเลือกปืนต้นนี้
มันถ่มน้ำลายถุย ๆ ใส่มือตีนแล้วปีนป่ายอย่างอาจหาญหน้าอกหน้าท้องไม่แตะต้องลำต้นใช้ แต่มือตื่นเท่านั้นเกาะไต่รวดเดียวไม่มีหยุดพักจนถึงยอดเหนี่ยวโหนโยนตัวขึ้นเยนตัวขึ้นคร่อมคอตาลเอาเชือกผูกทะลายได้ก็ฟันโดะ ๆ ที่ขั้วโดยที่ปากมันคาบเชือกไว้เฉาะไม่ก็ที่ขัวตาลขาดทะลายตาลร่วงพร้อมดึงเชือกลงไปด้วยนึกเอาเถิดเมื่อปากมันคาบเชือกอยู่ถูกกระชากแรงและเร็วอย่างนั้นฟันหน้าบนล่างทั้งแผงของมันจะเหลืออะไรไม่ถูกดึงหัวทิ่มลงโหม่งพื้นก็บุญโขแล้วดีที่มือไวคว้าทางตาลไว้ทันกระนั้นก็ถูกหวีตาลที่คมเหมือนฟันเลื่อยบาดมือฉีกเว่อ
แต่มันยังลงมาเฉาะตาลให้สาวกินได้
หมู่บ้านนี้อุดมด้วยดงตาลตาลหลายรุ่นอายุเท่าปู่ย่าตายายพ่อแม่หยัดยืนเบียดเสียดหนาแน่นบางดงเป็นตาลปลูกก็เรียงรายเป็นแถวแนวตามคันนาอยู่ในที่ใครก็เป็นของคนนั้นคนทำตาลมาขอเช่าทำประโยชน์มีบ้างดงตาลตามริมบึงริมหนองและตามที่รกร้างใครจองก่อนเก่าก็ถือเอาสิทธิ์เด็ดขาดไปใครหาญมาแย่งพาดพะองมีหวังเจอมีดปาดตาลอันคมกริบ
น้ำตาลสดดงอ้ายต่ำใคร ๆ ลือว่าหวานหอมนักหวานเต็มที่ตั้งแต่ยังไม่เข้าเดือนสี่เดือนห้า แต่ใคร ๆ ก็ว่าเมียมันนั้นหวานกว่าตาลหลายเท่าหวานหูหวานตาหวานทั้งกิริยาชม้อยชม้าย
ก็อ้ายต่ำวัน ๆ เอาแต่ขึ้นที่สูงจะรู้จะเห็นอะไรกับเรื่องต่ำติดดินพ่อค้าหนุ่มผู้เป็นลูกค้าสำคัญขับรถกระบะคันใหม่มาจากในเมืองเหมาเอาตาลปึกไปทีละร้อย ๆ กิโลเจ็ดวันแปดวันโผล่มาที่หน้าตาลอย่างนี้โผล่มาบ่อยก็มีอดีตาลดีอย่างอ้ายมันทำตาลปีกออกได้วันละมากมายกว่าใครทั้งตำบล
คนทำตาลเหมือนกันอยู่อย่างคือชอบร้องเพลงบนยอดตาลเช่นกันอ้ายต่ำมันติดร้องเพลงเหมือนนกกางเขนคือเสียงใสไพเราะ แต่มีอยู่ไม่กี่เพลงซึ่งแม้หวานเสนาะอย่างไร แต่เมื่อซ้ำซากจำเจเข้าเมียคนงามก็อาจเบื่อได้
คนขี้เหร่เมียสวยก็ย่อมมีระแวงบ้างอ้ายต่ำมันคอยมองลงมาจากยอดตาลคอยดูรถกระบะที่มักแล่นเข้ามาตอนสาย ๆ ระยะหลังชักมาบ่อยแม้มันบอกว่าตาลออกไม่ทันอ้ายหมอนี่ก็ยังมาพาอ้ายต่ำพื้นอารมณ์เสียไม่เพียงรถกระบะคนเมืองนี่ยังมีมอเตอร์ไซค์ใหญ่น้อยแวะเวียนมาไม่ขาดหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หมู่บ้านเดียวกันและหมู่บ้านอื่นโฉบเฉียวมาลิ้มเต็มความหวาน
แต่ที่มาเงียบคืออ้ายหนุ่มคนทำตาลต่างถิ่นหมอนเดินซุ่มละเมาะเลาะตลิ่งมาจากคุ้งตะเคียนลักยกเบ็ดยกข่ายกู้ลอบกู้ไซเขามาเรื่อยแล้วลัดคุ้งข้ามดงสะแกมาโผล่ข้างเพิ่งเตาตาลหิวปลาตัวงามมาฝาก
คนหนึ่งอยู่สูงอีกคนมาต่ำ แต่เป็นคนทำตาลด้วยกันมันย่อมรู้เชิงกันฝ่ายรุกแฝงกายมาเงียบ ๆ ฝ่ายเจ้าถิ่นก็พรางตัวเคลื่อนไหวได้สุ่มเสียงพักนี้อ้ายต่ำขึ้นตาลมือตื่นเบากระบอกตาลแทบไม่กระทบกันมั้งเสียงเพลงมันก็เงียบหายเจื้อยแจ้วก็ แต่นกกางเขน
ชีวิตอ้ายตำฝากไว้กับตาลตาลพืชสารพัดประโยชน์มันนับว่ายังมีโชคเมื่ออยู่ดีๆมีรถตู้ของพวกโทรทัศน์มาจากกรุงเทพฯมาถ่ายทำเรื่องราวของตาลและคนทำตาลดงตาลอ้ายตำถูกเลือกด้วยว่าเป็นดงใหญ่มีตาลมากทั้งทำเลงามด้วยลำน้ำทอดโค้งโอบกอดเ
ขาถามมันตอบ ตอบอย่างผู้เชี่ยวชาญมันรู้จักรู้จริงและรู้ลึกเพราะรู้สึกรักผูกพันเพราะตาลคือชีวิตคือประโยชน์ของมันเขาสนใจในรูปร่างอันโดดเด่นหยัดยืนสูงเสียดฟ้าและเน้นย้ำหนักแน่นตรงคุณค่าคุณประโยชน์สนใจความแตกต่างระหว่างตาลตัวผู้และตัวเมียสนใจเรืออีโปงที่ขุดจากโคนตาลจากนั้นให้มันปืนตาลขึ้น ๆ ลง ๆ เพื่อเก็บภาพการป่ายปีนอันชำนาญให้มันแสดงวิธีเฉาะตาลเฉาะอย่างไรให้ตรงลอนพอดีลอนไหนอ่อนไปแข็งไปกินลอนตาลกับน้ำเชื่อมน้ำแข็งใสชื่นใจแค่ไหนน้ำตาลสดรสชาติเป็นไงพอน้ำตาลเคียวงวดเหนียวเป็นตังเมเขาฉีกใบตาลมาช้อนชิมพลางรำพึงว่าหวานเยี่ยมพร้อมหอมเขม่าควันเขาสนใจวิธีรมควันกระบอกซักถามสรรพคุณของไม้ตะเคียนที่ใส่กันน้ำตาลบูดตลอดจนขั้นตอนโดยละเอียดจากน้ำตาลสดๆจนเป็นตาลปึก
มือกล้องถ่ายซ้ำถ่ายซากก็ตอนเมียคนงามของมันวาดใบพายในกระทะเขาจับเมียมันแต่งตัวสวยสวยจนมันเองยังตะลึง แต่ก็หมั่นไส้คันมือตีนตงิด ๆ ที่เห็นนางทำตัวขึ้นกล้องจนเกินงามที่ดีก็มีคือนางเอาเด็กปากแหว่งไปไว้บ้านยายก่อนเขาจะลงมือถ่ายทำ แต่อย่างไรทุกอย่างก็จบลงด้วยดีพวกโทรทัศน์ให้ของตอบแทนเป็นวิทยุหิ้วเครื่องหนึ่งกับเงินสดห้าร้อยเป็นค่าแสดงยังยกชุดที่ใส่ถ่ายทำให้นางเมียเมียมันสวย แต่ขี้เห่อคำชม
ก่อนกลับเขายังบอกให้คอยดูรายการในวันออกอากาศรายการเกษตรเรื่อง “ ตาลพืชสารพัดประโยชน์” มันตื่นเต้นดีใจเผลอหักนิ้วนับสะท้อนใจด้วยว่ามันไม่มีเครื่องโทรทัศน์เหมือนบ้านอื่นเขาใจชื้นหน่อยเมื่อนึกได้ว่าจะขออาศัยตูที่ร้านค้าในหมู่บ้าน
ตอนรถเขาแล่นออกไปมันเหลียวหาเมียมันเจอหน้าก็หัวเราะหึๆ กับตัวเองว่าเออหนอบ้าแท้กลัวเมียจะดอกทองติดรถเขาไปเรื่องเสียนี่พาให้กลุ้มใจว่าก่อนจะมาเจอกันนางสมบุกสมบันเรื่องผู้ชายมาแค่ไหนยังเรื่องเด็กปากแหว่งนี้อีกทำให้มันขรึมเครียดคนปากบอนสะกิดให้ว่าเจ้าเด็กน้อยนี้ไม่ใช่ลูกของมัน
แต่มันกับเมียและลูกน้อยยังอยู่กันดีมีความอึดอัดใจเก็บได้เก็บกดได้กดไม่แสดงออกหากไม่มีความขัดแย้งใหม่มาเพิ่มของเก่าก็ค่อยผ่อนคลายละลายจาง
อ้ายต่ำสบายใจเริ่มร้องเพลงบนยอดตาลได้อีกมันแข็งขันขึ้นตาล แต่เช้ามืด
แต่แล้ววันหนึ่งขณะมันปืนตาลต้นโปรดชื่อเจ้าบุญทองเกือบถึงยอดแล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันความเคร่งเครียดที่ผ่อนคลายก็กลับคืนเป็นคุแค้นเจียนคลังยิ่งนานวันยิ่งสะสมรมสุมรุมอก
คนทำตาลด้วยกันเขาทำร้ายกันแบบนี้หรือ
ด้วยการลักแก้สายรัดพะองท่อนยอดคลายแต่ละเปลาะให้หลวมพร้อมจะหลุดทันทีที่รับน้ำหนักคนอื่นอ้ายคนปืนตาลชะตาขาดสะพายกระบอกมาเป็นพวงพร้อมมีดขัดเอวปืนขึ้นฉับๆว่องไวเสียงกระบอกเปล่ากระทบกันดังโกรง ๆ นึกภาพเอาเถิดเมื่อสายพะองหลุดพลันอ้ายคนปืนตาลผละหงายใครเห็นก็ต้องหลับตาไม่กล้าดูตามด้วยเสียงแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น
ใครเมื่อขึ้นตาลสูงเกินครึ่งค่อนแล้วตกลงมาย่อมไม่มีโอกาสลุกขึ้นได้
แต่วันนี้อ้ายต่ำเอาชีวิตรอดมันคว้าโอบต้นไว้ทันมันไต่ลงมาด้วยใจเปี่ยมแค้น
จนฝนมาก็หมดหน้าตาลแล้วตาลทั้งดงดูสูงโย่งเหมือนเปรตยามฝนกระหนำฝูงเปรตร้องครวญครางน่าสะพรึงกลัวลมบ้ากระชากทางตาลแห้งร่วงเกรียวกราวมันทบทวนถึงเรื่อง “ ตาลพืชสารพัดประโยชน์” มันเริ่มเห็นประโยชน์ด้านอื่นที่นอกเหนือจากการเอาน้ำตาลและลอนตาล แต่ก็เป็นประโยชน์ไม่ยั่งยืน
มีคนมาขอซื้อต้นตาลเพื่อโค่นเอาไม้
หน้าน้ำอ้ายต่ำและเมียยังชีพด้วยการพายเรืออีโปงซึ่งขุดจากโคนตาลออกลงข่ายลงเบ็ดในลำน้ำว่าง ๆ รับจ้างเขาเก็บพริกหักข้าวโพดหวดสวนดายหญ้าพอเลี้ยงปากท้องแม้ไม่เต็มอิ่มเต็มหนำ
จนฝนลาแล้วหนาวมาเยือนอ้ายต่ำรื้อพะองเก่าพาดพะองใหม่เริ่มจากรับจ้างพาดพะองให้คนอื่นก่อนแล้วจึงพาดตาลมันเองมันจะได้ปืนตาลอีกครา
แต่หน้าตาลปีใหม่นี้ไม่เป็นเช่นนั้น
ผู้คนเล่าลือสื่อต่อกันไปนานอ้ายต่ำคนปืนตาลมันเอามีดปาดตาลอันคมกริบปาดคอคนอย่างโหดเหี้ยม
เหยื่อคมมีดคืออ้ายหนุ่มทำตาลแห่งคุ้งตะเคียนคนที่ย่องเงียบเชียบมาเหยียบจมูกมันถึงถิ่นสยดสยองกว่านั้นคือนางเมียคนงามโดนมันกดหัวจมกระทะน้ำตาลที่กำลังเดือดปุด ๆ
มันนั่งตัวสันสะท้านบนคอตาลคิดว่าชาตินี้ไม่ขอปืนลงอีกแล้วภาพอันเลวร้ายวนเวียนหลอกหลอนมันไม่อาจปาดคอเด็กน้อยจึงไม่กล้าปาดคอตัวเอง
แว่วเสียงลูกน้อยร้องไห้จ้ามันตัดสินใจโอบไต่ลงมาตาลเดี่ยวนอกดงไม่มีพะอง
มือตีนมันปวกเปียกอ่อนล้าข้อแขนข้อเข่ายึดแข็งค้างเกร็ง
ใครไม่ทันมอง มันร่วงลิวลงพื้น
นับ แต่วันนั้นดงตาลอ้ายตำก็กลายเป็นป่าร้างชั่วระยะหนึ่งไม่มีใครกล้าเข้าไปทำตาลเรื่องราวอันสยดสยองนี้ไม่ว่าผู้เล่าหรือผู้ฟังก็ต้องขนพองสยองเกล้า
แต่ไม่นานปีตำนานสยองแห่งดงตาลก็ไม่มีอิทธิฤทธิ์ข่มใจใครได้อีก
ตาลนั้นเป็นพืชสารพัดประโยชน์ทุกส่วนของตาลมีคุณค่าอีกประโยชน์หนึ่งคือเนื้อของมันต้นตาลมีแก่นอยู่นอกตรงข้ามกับไม้อื่นที่แก่นอยู่ในไม้ตาลใช้ทำตงทำรอดแข็งแรงทนทานปูพื้นตีฝาใช้ตกแต่งหรือทำเครื่องเรือนได้รูปรสแปลกใหม่แก่ถึงที่แล้วปลวกกินไม่เข้า
มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เอาประโยชน์จากทุกสิ่งได้ไม่ว่าจากสิ่งมีชีวิตหรือไร้ชีวิตจากฟ้าจากดินจากน้ำลมไฟกระทั่งสิ่งที่ตามองไม่เห็น
บางสิ่งดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่คนก็สามารถเห็นแง่มุมที่เป็นประโยชน์และรู้วิธีที่จะได้มาซึ่งประโยชน์
แล้วแต่ใครค้นพบแล้วแต่ใครจะต้องการแล้วแต่ใครจะได้โอกาสในการครอบครองประโยชน์นั้น
แต่ใครเล่าเป็นผู้ตัดสินว่าประโยชน์นั้นควรเป็นของใครเรื่องราวของอ้ายต่ำมิได้สลักสำคัญอะไรเรื่องผีสามตัวที่เฝ้าดงตาลไม่มีใครกล่าวขวัญถึงแล้วตาลนับร้อยต้นในดงอ้ายต่ำถูกโค่นลงในเวลาต่อมา
ไม้ตาลอาจแปรรูปยากเพราะเนื้อแข็งและเสี้ยนสับสนจะเลื่อยจะไสก็กินใบเลื่อยใบกบจะตีตะปูก็คดงอ แต่ไม่พ้นมือคนไปได้หรอกเพราะคนเห็นประโยชน์จึงได้ลงมือซึ่งก็แล้วแต่มือใครจะสามารถกว่า
อีกไม่นานมีบ้านหลังใหม่ผุดขึ้นเด่นสง่าบนย่านทะเลทองริมถนนสายใหญ่ที่เพิ่งลาดยางใหม่ ๆ หมาด ๆ เป็นบ้านของคนมีวาสนามีเงินมีอำนาจบารมีบ้านหลังนี้สร้างและตกแต่งด้วยไม้ตาลทั้งหลังไม้ตาลซึ่งผิวดำมอก็กลายเป็นดำขลับดุจเนื้อนิลขัดเรียบชักเงาจนเส้นเสี้ยนที่สับสนกลายเป็นเส้นไหมแวววาวสอดประสาน
อ้ายต่ำอยู่ใต้เงาดงตาลชั่วชีวิต แต่มันมีเพียงกระท่อมซอมซ่อที่มุงด้วยทางตาลแห้งกรอบมันปืนเอาน้ำตาลทุกวัน แต่แทบไม่เคยได้ลิ้มรสหอมหวานนั้นเลย หมดรุ่นคนที่รู้เรื่องราวก็จะไม่มีใครพูดถึงตำนานอ้ายต่ำคนปืนตาล แต่
ต้นตาลก็ยังได้ชื่อว่าพืชสารพัดประโยชน์อยู่เสมอ
ใคร ๆ ผ่านมาก็ชื่นชม“ บ้านไม้ตาลทั้งหลัง” แห่งนี้
“ ใช้ตาลกว่าห้าร้อยต้น”
“ ใหญ่โตโอ่อ่าและแปลกใหม่”
“ เจ้าของบ้านร่ำรวยล้นฟ้า”
“ รวยทั้งเงินทั้งน้ำใจ “นี่คือคำเลื่องลือของชาวบ้าน”
“เจ้าของบ้านโปรดปรานน้ำตาลสดๆจากกระบอก” คนปืนตาลคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ น้ำตาลสดมีคุณค่าสูงให้พลังงานและความสดชื่น” เขาพูดเรื่องประโยชน์ของตาล
“ บางวันอารมณ์ดีกระบอกหนึ่งท่านให้ใบละร้อยไม่รับเงินทอน” ลงท้ายเขาพูดเรื่องประโยชน์ตน
คนปืนตาลเดินจากวงคุยดุ่ม ๆ เข้าป่าตาล
จากยอดตาลต้นหนึ่งเขาเห็นบ้านไม้ตาลทั้งหลังนั้นชัดเจนเขาเผลอมองเพลินยอมรับเต็มหัวใจว่าช่างงดงามเสียจริงไม้ตาลนั้นดูว่าไม่ แต่เขาทำมาใช้ได้อย่างมีคุณค่าตื่นตายิ่ง
ให้ครึ่มในอารมณ์นัก แต่เขาไม่ร้องเพลงเช่นเคยลึก ๆ เขาเบื่อปืนตาลเต็มที่แล้วแม้ว่าตาลจะเป็นพืชสารพัดประโยชน์
วูบอารมณ์หนึ่งเขานึกถึงตำนานอ้ายต่ำ
เสียงบรรยาย
https://drive.google.com/file/d/1H05DRBsu1vv04xT217ufhsAXcYcDCjB3/view?usp=sharing