SAME PLACE DIFFERENT TIME

“เมื่อเวลาผ่านไปปัจจุบันก็กลายเป็นอดีตแล้ว 

แต่อดีตก็สามารถกลับมาใหม่ได้…อีกครั้ง”

               ถ้าจะให้พูดถึงปัจจุบัน เอาเข้าจริงๆปัจจุบันมันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆเหมือนแค่ดีดนิ้ว หลายๆอย่างเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น

               ขนาดสถานที่เดิมแค่เวลาเปลี่ยนไปเพียงไม่กี่เดือน บรรยากาศ และความรู้สึกยังต่างไปเลย

               พระตำหนักดอยผาตั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่ที่ฉันไปมาในช่วงเวลาต่างกัน ครั้งแรกในต้นเดือนธันวาคม ส่วนครั้งที่ 2 ปลายเดือนมกราคม

               เวลาที่แตกต่างกันไม่กี่เดือน อารมณ์ ความคิด และความรู้สึกมันช่างต่างกันมากมากจนราวกับเป็นคนละที่

               พระตำหนักดอยผาตั้งในเดือนธันวาคมนั้น เป็นดอยผาตั้งที่เหงาๆ ดูโดดเดี่ยว ด้วยเม็ดฝนทีี่ตกลงมาเบาๆอย่างไม่ขาดสาย บวกกับอากาศเย็นๆ หรือจะเรียกว่าหนาวบนทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ ทำให้กลไกของธรรมชาติสร้างหมอกขึ้นมาในเช้าวันนั้น 

ท่ามกลางหมอกอันหนาแน่นที่ลอยล้อมรอบตัวฉัน บางทีก็ทำให้เหงาโดยไม่รู้ตัว ความเหงาก่อตัวขึ้นในใจฉัน นั่นเป็นเพราะบรรยากาศ ไม่ใช่ความรู้สึก เราเชื่ออย่างนั้น             

 เพราะว่าหมอกหนาในวันนั้น หนาซ๊ะจนเรียกได้ว่ามองไม่เห็นใคร เปรียบเหมือนฉันยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางหมอกหนาๆแห่งนี้ 

ด้วยหมอกที่รู้สึกเหงาๆ และวันหม่นๆวันนี้ อาจทำให้บางคน รวมถึงฉัน เกิดความรู้สึกหลายๆอย่าง ทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้น เหงา และคิดถึง

สำหรับฉันบางทีความรู้สึกในวันเก่าๆนั้น คนเราไม่ได้ลืมมันไม่ได้หรอกแต่บรรยากาศรอบๆตัวของเราต่างหากที่พยายามนำความรู้สึกนั้นกลับมา อาจจะเป็นเพราะเป็นประสบการณ์ที่เคยเจอหรืออาจเป็นเพราะบรรยากาศที่พาตัวเรากลับไปอยู่ในจุดๆที่เรียกได้ว่า “คิดถึง” บรรยากาศมันคอยตอกย้ำความรู้สึกเหงาๆ เลยทำให้ใจกลับไปคิดถึง

               แต่ถ้าลองไปสถานที่เดิมในวันที่อากาศสดใส แดดจ้าดูหล่ะ แน่นอนว่าความรู้สึกก็จะเปลี่ยนตามบรรยากาศ บรรยากาศที่สนุกจะชวนใจสนุกไปกับมัน ถึงแม้ว่าบางคนเจอเรื่องร้ายๆมา แต่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สดใจ ใจก็จะเปลี่ยนจากเศร้าหมองกลายเป็นสดใสแทน

พระตำหนักดอยผาตั้งในปลายเดือนมกราคมของฉันนั้นกลับเต็มไปด้วยความสดใส รอยยิ้ม และชุ่มชื่นหัวใจ ไม่เหมือนกับบรรยากาศหม่นๆในครั้งก่อน

 นอกจากใจคนแล้วที่รู้สึกสดใส น้องแกะน้อยก็คงสดใสไม่แพ้กัน วันแดดออก วันที่ธรรมชาติิอนุญาตให้เจ้าแกะน้อยออกมาวิ่งเล่น ไม่ได้ทำให้แค่น้องแกะได้วิ่งเล่น แต่น้องแกะพวกนั้นทำให้ผู้คนที่พบเจอยิ้ม และหัวเราะอย่างมีความสุข

นอกจากแกะยังได้วิ่งแล้ว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังได้วิ่งตามน้องแกะไปบนเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้ เสมือนอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง The sound of music พร้อมฮัมเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ในระหว่างที่วิ่งตามน้องแกะ

               เพราะแดดออก ท้องฟ้าสดใส ทำให้วันนี้ฉันไม่รู้สึกเหงา และคิดถึงอีกต่อไป ทั้งๆที่สถานที่วันนี้ก็เป็นสถานที่เดียวกับวันนั้น แต่ความรู้สึกช่างต่างกันมากมาย 

ผู้จัดทำ

นางสาวชนิกา ชโลปถัมภ์6240110107นางสาวน้องฟาน อัจฉราวงค์6240110112นางสาวตรีมาศ กุมรัมย์6240110109

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น