Barista red

Barista red เรื่อง พอชีวิตเล็กลงก็ไปโลด

เนื้อเรื่อง พอชีวิตเล็กลงก็ไปโลด

PART1

คืนสู่สามัญ

ทำชีวิต

ให้ธรรมดา

ทวงคืนพื้นที่ชีวิต 

2. แก้วิกฤติ งานกองสุมหัว 

3. เตียนโล่งทุกพื้นที่ในชีวิต 

4. กำจัดกระดาษใกล้ตัวให้มากที่สุด 

5. เคล็ดลับกำจัดความเสียดาย

เพื่อชีวิตที่เตียนโล่ง 

ทวงคืน

พื้นที่ชีวิต

“ในแต่ละวันที่ผ่านไป

เหมือน “เวลาชีวิต” และ “เวลาความสุข” มันหายไป

เราต่างเผชิญกับความรู้สึกว่า อึดอัด บีบคั้น และ ไม่พอ”

คำว่าไม่พอในที่นี้หมายถึง ทุกสิ่งที่เราต้องทำ ต้องมี ต้องเป็น

มันไม่พอ และแน่นอน เมื่อแบกรับความรู้สึกว่าไม่พอไปนาน ๆ

ชีวิตคุณจะเริ่มอึดอัด เฉื่อยแฉะ และไร้สุข

มีเวลาเห่ไหร่ก็ไม่พอ มีเงินเก่ไหร่ก็ไม่พอใช้

กรงานกองสุมหัวเต็มโต๊ะ ทำเก่ไหร่ก็ไม่เสร็จ

บ้านรก โต๊ะทำงนยุ่งเหยิง มองเห็นสิ่งที่กองตรงหน้า

รู้สึกเหมือนว่าหัวสมองจะระเบิด”

นอกจากนี้

เราไม่เพียงแต่แบกบชีวิต เรายังต้อง

แบกรับความสัมพันธ์ และความรู้สึกที่หลากหลายของตัวเอง

พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนและรักษาสมดุลของความ

สุขตัวเอง แต่ก็ยังรู้สึกว่า มันยังไม่ดีพอ

ก่อนจะหันไปจัดกรกรงาน กรงิน หรือความสัมพันธ์

อันเป็นจักรวาลรอบตัว คุณควรหันมาทวงคืน พื้นที่ชีวิต และ

พื้นที่ในหัวใจตัวเอง ทำให้มันเตียนโล่ง เตรียมรับชีวิตที่โลด

เล่น”

“มนุษย์คือ

See

ตัวตนของธรรมชาติ

ในยุคดีกดำบรรพ์ เราอาศัยอยู่ในทุ่งโล่ง ในป่าดงแม้จะนอน

ในถ้าแต่เราโลดแล่น วิ่งไลล่า รวมกลุ่ม แบ่งปันมีกฎเกณฑ์ตามแต่

ความพอใจ และไม่เบียดเบียนธรรมชติเกาะกลุ่มแบบพอเพียง “แม้

จะเสียงอันตราย แต่ตื่นเต้นเร้าใจ เลือดลมสูบฉีด นั่นคือบรพบุรุษ

ของเรา ตัวตนของเรา” หล่อหลอมผ่านกาลเวลามายาวไกล แต่เนื้อ

แท้ของความเป็นมนุษย์ ยังคงฝังรากลึก

พอชีวิตเล็กลง

ก็ไปโลด

“หลายพันปีผ่านไป

เราหาสิ่งต่างๆ มาห่อหุ้ม จนชีวิต

แน่น ทุกพื้นที่ในชีวิตเราเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ทั้งที่

จำเป็นและไม่จำเป็น มันกลืนกินพื้นที่โล่งของชีวิตเรา”

ต่ความเตียนโล่ง

จะทำให้เราผ่อนคลาย

เวลาสะสมเราค่อยๆ ทำมัน จนบางครั้งเราไม่รู้ตัวว่า พื้นที่ชีวิต

เราหายไป ดังนั้นที่มาของความอึดอัดคับข้องใจของคุณ ส่วนใหญ่

มากจากความยุ่งเหยิงเยอะแยะ ถ้ามันเตียนโล่ง มันจะผ่อนคลาย

เพราะไม่มีอะไรมากระตุ้นความครียด ดังนั้น ตรียมตัวเตรียมใจ

โยนทุกสิ่งทิ้งกันเถอะ

ต่ความเตียนโล่ง

สร้างความปลอดโปร่ง키

ถ้ารอบตัวคุณเตียนโล่ง อากาศจะสะอาดมากขึ้น พวกเชื้อ

โรค เชื้อร จะไม่มีมุมอับให้เขาไปพักตัว ท่มกลางความเตียนโลง

ทุกครั้งที่หายใจเข้าออก คุณจะรู้สึกปลอดโปร่งโล่งหัว

ต่ความเตียนโล่ง

ปลุกความคิดสร้างสรรค์”

พื้นที่กว้าง ทำให้พลังชีวิตเราลุกโชน ความสร้างสรรค์

พรสวรรค์จะถูกปลุก นั่นเป็นเพราะความเตียนโล่ง ทำให้คุณอารมณ์

ดีและมองเห็นโลกในมุมกว้าง ความปลอดโปร่งจากภายใน คือพลัง

ขับเคลื่อนชีวิต

“คุณเคยสังเกตไหม ว่ในห้องทำงานของศิลปินมือ

อาชีพจะรกมาก แต่ความจริงก็คือ ที่คุณเห็นนั้น มันอยู่ในช่วง

เวลาที่เขาทำงาน แต่หลังเลิกงาน กับก่อนเริ่มงาน มันกลับไม่มี

กระดาษแม้แต่แผ่นเดียววางอยู่บนโต๊ะ นั่นแหละคือเคล็ดลับ

ของความสร้างสรรค์”

แว้นที่ว่างไว้วางความสุข

ชีวิตที่ยุ่งเหยิงไร้สุข นั่นเป็นเพราะชีวิตมันเต็มแน่นไม่มี

พื้นที่ว่าง ให้ความสุขแทรกตัวเข้าไป เมื่อไหร่ที่รอบตัวคุณ

เตียนโล่ง ความสุขเรียบง่ายจะถูกปลูกถ่ายลงในหัวใจอย่าง

ช้ๆ ไม่ว่จะมองไปทางไหน หัวใจคุณจะชุ่มชื้น ท่ามกลาง

วิถีชีวิตที่ดิ้นรน อารมณ์คุณจะเยือกเย็น นั่นแหละคือที่มา ของ

ความสุขแบบเรียบง่ายกี่ความเตียนโล่ง จะทำให้คุณมองเห็น

“ความเตียนโล่งคือ อิสรภาพ’

ถ้ารอบตัวคุณตียนโล่ง คุณจะรู้สึกเหมือนกลับไปวิ่งใน

ทุ่งกว้างไล่ล่ากวางเป็นอาหาร เหมือนยุคดึกตำบรรพ์ ทั้งๆ ที

ความจริง คุณนั่งอยู่ในออฟฟิศ ท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ ที

มีอารยธรรม แต่พลังชีวิตคุณ มันจะลุกโชนคุณจะกระโจนไป

ข้างหน้าอย่างโลดแล่น

แความเตียนโล่ง

ผ่อนคลายความกดดัน”

เพราะอยู่ท่ามกลาง ข้าวของเยอะแยะตลอดเวลา ทำให้

ชีวิตเรา เหมือนถูกบีบ แรงกดดันที่มีอยู่ มันจะเพิ่มมากขึ้นกว่า

เดิม ความรู้สึกของคุณจะบีบรัดตัวเอง ในเวลาที่เครียดในห้อง

ประชุม การเดินออกจากห้อง จะช่วยให้เราพ้นวิกฤติ เพราะ

พื้นที่นอกห้อง มันเตียนโล่งยังไงล่ะ

“ความเตียนโล่งจะทำให้คุณขยัน

พอรอบตัวเตียนโล่ง คุณจะรู้สึกว่าว่างและมีพลัง อยาก

จะลุกขึ้นมาทำนั่นทำนี่ มีโปรจดใหม่ๆ ไม่รู้จบ และอยากจะ

ทำมันไปหมดซะทุกอย่าง โต๊ะทำงานที่โล่ง จะทำให้คุณอยาก

ทำงาน บ้านที่โล่งจะทำให้คุณอยากทำงานบ้าน เพราะอะไร

ที่น้อยนิด เราจะรู้สึกว่ามันาย และอยากที่จะทำมันนั่นเอง

6อะไรที่ไม่ได้ใช้ ก็ขยะทั้งนั้น

ความเตียนโล่ง จะทำให้เราตัดสินใจ ได้อย่างแม่นยำใน

ทุกสิ่ง มองเห็นส่วนเกินที่แอบแฝง อะไรก็ตามที่วางเกะกะ หรือ

ว่าทำให้คุณวาวุ่นใจ คุณจะรู้ได้ทันทีว่ามันคือขยะ แม้รูปร่าง

หน้ตาของมันจะหรูหรา น่รัก น่เก็บ น่ใช้ แต่อะไรก็ตามที่ไร้

ประยชน์มันก็คือขะทั้งนั้น แล้วคุณจะตัดสินใจทิ้งมันไปอย่าง

ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวของหรือผู้คน

ตั้งเป้าหมาย

เพื่อความเตียนโล่ง

ถ้าตอนนี้คุณรู้สึกว่าไม่พอ ทั้งเวลาชีวิต เวลาความสุข

บุกพร่องทั้งการจัดการ การงาน การงิน และความสัมพันธ์ คุณต้อง

หันมองมองพื้นที่ชีวิต ว่าตอนนี้มันเต็มแน่นมากแค่ไหน แล้วเตรียม

ตัวเตรียมใจ ทวงคืนพื้นที่เตียนโล่งของคุณ

แผนการเตียนโล่งนี้ คุณต้องทำมันงียบๆ คนเดียว เป็นแผน

ร้ายที่ต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามปรึษาใครเด็ดขาด โดยเฉพาะคุณ

แม่หรือว่าคุณยายของคุณ เพราะพวกท่านจะคัดค้าน แผนการเตียน

โล่งของคุณอย่างหัวชนฝ่า

เพราะคนแก่มักชอบเก็บสะสมทุกสิ่งที่เป็นตำนาน ด้วยความ

หวังว่าสักวันจะได้ใช้ ทั้งๆ ที่ความจริงของเหล่านั้น จะถูกเก็บเป็น

ตำนานจนถึงวันโลกแตก

เอาล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก้าวเข้าสู่ โลกแห่งความ

เตียนโล่งกันเถอะ

2.

แก้วิกฤติ

งานกองสุ่มหัว

งานกองสุมหัวทุกวัน หันซ้ายหันขวา

ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อน

ไหนจะต้องโทรศัพท์หาบุคคลสำคัญ และไม่สำคัญต่างๆ

ในบางเวลาก็ลำบากใจ ไม่อยกเจรจาในเรื่องที่อึดอัด

งานเยอะจนไม่รู้ว่จะทำอะไรก่อน มันสุมกองกันอยู่บนโต๊ะ

ทำเท่าไหร่ก็ไม่หมด”

บางครั้งเรอางไนรู้ตัวว่า งานมไบระอบำางสิ,

และไม่มีอะไรงยากอย่างที่เห็น เพียงแต่ในโลกของการทำงาน

ทุกๆ วันมันจะมีเรื่องยุ่งยาก ที่ทำให้เราลำบากใจ

อย่างเช่นงานจุกจิกที่จบไปแล้ว แต่ยังตามมาให้แก้

หรือต้องโทรศัพท์ไปเจรจาปัญหาบางอย่าง

ที่คุณรู้สึกกังวลกับผลลัพธ์ของมัน นั่นคือที่มา

ของความยุ่งเหยิงที่ดูดกลืนพลังชีวิตคุณ

“เรามาสะสางอย่างซ้ำๆ

ลตขนาตความรู้สึกยุ่งเหยิงของคุณ

ที่โต๊ะทำงนของคุณก่น เพราะที่แห่งนั้นคือพื้นที่ชีวิต

เป็นจักรวาลของความรู้สึก ที่คุณต้องปกป้อง ดูแล

นั่นไม่ใช่แค่โต๊ะทำงนนะ แต่มันคือบ้านของความสุข

และความมั่นคงของชีวิต”

เคลียร์พื้นที่บนโต๊ะให้โล่ง

ก่อนอื่นคุณต้องมองหาพื้นที่จัดเก็บ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นซักหรือตู้

เก็บของใกล้ๆ ถ้าไม่มีอะไรเลย หากล่องมาสักใบ เก็บข้าวของเครื่อง

ใช้ลงไปในกล่องก่อน อย่าให้มีอะไรวางไว้บนโต๊ะทำงานของคุณ

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มต้นเคลียร์พื้นที่ คุณอาจเตรียมตัวไม่ทัน ดัง

นั้นให้ข้าวของมันไปรคอยู่ในกล่องชั่วคราวก่อน แล้วคุณค่อยๆ

แยกแยะของในกล่ง ว่มันคืออะไร และเหมาะกับการจัดเก็บแบบ

ไหน เพราะมันจะทำให้คุณ เลือกตู้ เลือกแฟ้ม ตู้แขวน หรือชั้นวาง

ของที่เหมาะกับไลฟ์สตล์ ในกรทำงานของคุณ แล้วคุณจะสนุก

กับการจัดเก็บมากขึ้น

“อย่าตกใจ! ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณ

คิดว่าคุณกำลังจะลาออก ถ้าเป็นแบบนั้น

ก็แปลว่า โครงกรเตียนโล่งของคุณ

เริ่มมือนาคตที่สุดใสแล้วล่ะ”

ตั้ป้าหมาย ว่าวันนี้จะทำอะไร

แม้ว่ายุคนี้เรจะกดแนกดปุ่มกันเป็นหลัก จนคนสมัยนี้จับ

ปากกเขียนหนังสือไม่เป็นกันแล้ว แต่ถ้าคุณอยากเป็นมืออาชีพ

อย่าทิ้งปากกาเด็ดขาด!

สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือสมุดจดงาน จดเป้าหมาย เพื่อจดราย

ละเอียดงาน ที่คุณต้องทำในแต่ละวัน แล้วทำไมต้องใช้มือจด

นั่นเป็นเพระมือจะเชื่อมโยงกับสมองอย่างเป็นระบบ

เป็นกาทำงนที่สอดคล้อง อย่างเป็นรรมชาติ เหมือนคุณได้กลับ

ไปป็นนายพรานถือหอกไล่ล่กวางในทุ่งโล่งนั่นแหละ

“จดเป้าหมายงานที่ต้องทำในแต่ละวัน

ลงในสมุดจดงานของคุณ

จะทำให้คุณทำงาน อย่างมีทิศทาง

และได้เนื้องานที่จริงจัง ซัดเจน”

เรียงลำดับก่อนหลัง

อย่างเป็นระบบ

การจดเป้าหมายในการทำงน จะทำให้คุณเรียงลำดับก่อน

หลังอย่างเป็นระบบ อันไหนเร่งรีบ อันไหนรอก่อน ทำตามอันดับ

คุณจะได้ไม่ต้องทำงานโดดไปโดดมา แต่ทำตามลำดับการจัดเรียง

ที่ถูกต้อง แล้วคุณจะไม่ต้องเจอกับความยุ่งยาก เพราะมัวแต่ไปจับ

งานไร้สาระโดดไปโดดมา

ส่วนเหตุผลของการทำงาน แบบโดดไปโดดมา ก็คือเราทุกคน

จะเลือกทำงานที่เราอยากทำก่อน แม้ว่างานนั้นจะไม่เร่งรีบ แต่อะไร

ที่เราไม่อยากทำ เราจะผลัดผ่อน หมกเม็ด เอาไว้เผาในนาที่สุดท้าย

ที่มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว ผลก็คือ

“จำไว้ว่ายิ่งหนียิ่งเจ็บปวด ไม่ว่าจะเลี่ยงยังไง

สุดท้ายก็ต้องทำมันอยู่ดี แถมยังเป็นการทำงาน

ที่กล้ำกลิ่นฝืนทน บันทอนพลังความสุข

และความคิดสร้างสรรค์ อย่างร้ายแรง”

อะไรไม่เกี่ยว ไปกองไว้ที่อื่น

กองงานที่คุณต้องทำไว้บนโต๊ะ จัดการสิ่งที่อยูตรหน้า แล้ว

กำจัดสิ่งแปลกปลอมบนโต๊ะคุณไปให้หมด อะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวกับ

งานตามป้หมาย จงเนรเทศมันไปให้ไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นถุงขนม จาน

ผลไม้หรืออุปกรณีไฮเทคต่างๆ รวมทั้งหนังสือ นิตยสารที่ไม่เกี่ยวข้อง

หรืองานอื่นที่มาสอดแทรกยิบๆ ย่อยๆ จงเอามันไปโยนไว้ในตะกร้า

งานแทรก อย่าเอามากองสุมไว้บนโต๊ะ

“เพราะของจุกจิกมากมาย ทั้งเกี่ยวกับงานและไม่เกี่ยว

มันจะทำให้คุณรู้สึกบีบคั้น เหมือนงานมันกองสุมกัน จนไม่รู้ว่า

จะทำอะไรก่อน สุดท้ายก็ลงเอยที่ว่ ทำอันนั้นทีอันนี้ที สุดท้าย

ไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง”

“จัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้า”

ถ้าทำอะไรอยู่ จงทำมันไปให้สุดทาง อยใส่ใจงานแทรก

เล็กๆน้อยๆ ที่จะรบกวนสมาธิคุณ ถ้าระหว่างนั้นมีงานแทรก ให้คุณ

จดมันไว้ในสมุดโน้ต ว่ามันเป็นงานแทรก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืมมัน

“กินกบตัวใหญ่ก่อน

ฝึกนิสัยทำงานที่คุณไม่อยากทำก่อนที่เขาเรียกว่า กบตัวใหญ่

นั่นเอง แม้ว่ามันจะยากเย็นขยะแขยง แต่ถ้าคุณกินมันไปซะ คุณจะ

ได้พลังกลับมาอย่ามหาศาล และวันนั้นทั้งวัน คุณจะทำงานอย่างมี

ชีวิตชีวารู้สึกว่ชีวิตนี้ชงตีจริงๆ เป็นรรมชาติของมนุษย์ในเวลาที่

เราทำอะไรที่ยกสำเร็จเราจะภูมิใจและศรัทธาในตัวเอง

ถึงมันจะยาก

ก็อย่ากระโดดข้าม’

เคยใช่ไหม พอทำงานไปแล้วติดปัญหาบางอย่าง ทั้งที่รู้ว่า

ไม่ควรทำ แต่เราก็เลือกที่จะกองงานนั้นไว้ แล้วหันไปทำอย่างอื่น

จนถึงนที่สุดท้ายที่ต้องปิดจ็อบ สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องย้อนกลับมา

จัดการสวนที่ยาก

ถ้คุณเดินไปเจอจุดสะดุด อยกระโดดข้าม แต่จงเดิน

ตามเส้นทางของมัน และผ่านจุดยากนั้นไปให้ได้

“ทำเรื่องยากหรือลำบากใจ

วันละครั้ง」

ถ้าแค่ไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ ชีวิตนี้คงไร้ปัญหา แต่ความ

จริงมันไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่ทำให้เราอ่อนล้า และเบื่อหน่าย ก็คือการ

ที่ต้องทำอะไรที่เราไม่อยากทำ

“ถ้าคุณฝึกทำเรื่องยากๆ หรือลำบากใจทุกวัน เรื่องนั้น

จะค่อยๆ กลายเป็นเรื่องธรรมดา นั่นแปลว่าทุกๆ วันที่ผ่าน

ไป คุณจะลดสิ่ที่ไม่ชอบลงไปได้วันทุกวัน แล้วเรื่องลำบาก

ใจของคุณจะน้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือแต่เรื่องธรรมดา ที่คุณ

ทำมันได้สบายมาก”

“ปฏิเสธซะ

ถ้ามันไม่ได้ทำให้

ชีวิตคุณดีขึ้น

ไม่ใช่แค่เก่งงาน แต่คุณต้องเก่งการจัดการชีวิต เป็นเรื่อง

รมด ที่รทุกคนต่างก็เจอ นั่นคือทั้งที่งานเรายุ่ง แต่ก็ยังมีคน

เอางานอื่นมายัดเยียดให้ ไม่ว่าจะเป็นขอร้อง ขอความเห็นใจ หรือ

ขอความร่วมมือใดๆ ก็ตาม และคุณก็ต้องทำมัน ด้วยความเกรงใจ

แต่คุณรู้ไหมว่า

“กรทำงานอื่น ที่ไม่มีผลกับผลงานของคุณ มันคือตัว

ถ่วง ที่จะเบียดบังเวลาสร้างผลงานที่ชัดเจน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างเป็นชั้นตอ ดังนั้นจงปฏิเสธมันซะ งานแทรกที่ใดบ”

คนชอบโยนมา ถสิ่งนั้นไม่ได้สร้างโอคสให้ชีวิตคุณดีขึ้น

อย่ายุ่งเหยิง

จนนาทีสุดท้าย

นี่คือเหตุผลของการตั้งเป้าหมาย ถ้าคุณทำงานที่ตั้งเป้าไว้

ในแต่ละวันสำเร็จ คุณจะรู้ว่าแต่ละวันควรทำอะไร แค่ไหน เท่า

ไหร่ ให้มันเสร็จพอดี กับเวลาเลิกงาน คุณจะได้ไม่ต้องลนลานจึง

ถึงนาที่สุดท้าย

เพราะการเร่งรีบในเวลาเร่งรีบ อย่างตอนใกล้เลิกงาน ทั้งที่

ตลอดทั้งวัน คุณเหนื่อยกับมันมามากพอแล้ว นั่นเป็นการผลาญพลัง

ชีวิต ย่างโหดร้ายที่สุด ความรีบเร่งคุกรุ่น จะรบกวนคุณไปจนกลับ

บ้าน เข้านอน ตื่นนอน และเริ่มต้นงานในเช้าวันใหม่

ดังนั้นค่อยๆ หจังหวะที่พอดีกับงานของคุณ ให้ไม่จบลงสัก

สิบห้านาที หรือครึ่งชั่วโมงก่อนเลิกงาน คุณจะได้มีเวลาผ่อนคลาย

ก่อนกลับบ้าน

“ปกป้องพื้นที่เตียนโล่งรอบๆ

โต๊ะทำงานคุณ

ไม่ใช่แค่บนโต๊ะเท่นั้น แต่รอบๆ โต๊ะทำงาน ก็คือพรมแดน

หัวใจ ของคุณ สมัยที่ฉันทำงานประจำ ฉันทำตัวเตียนโล่ง ทำโต๊ะ

เตียนโล่ง และค่อยๆ

เคลียร์พื้นที่รอบโต๊ะให้เตียนโล่งอย่างช้าๆ จน

มันเป็นที่โล่งกว้างอย่างน่อัศจรรย์

แต่พอโล่งปุ๊บ เพื่อนร่วมงานเจ้ากรรม ดันเอากล่อง เอาลัง

เอาข้าวของ มาวางทันที ด้วยเหตุผลที่ว่ามันโล่งดี ทั้งๆ ที่โล่งแล้วดี

ก็ยังอุตส่าห์มาทำให้รกอีก

นี่ละหนอคนเรา โต๊ะตัวเองเน่า แล้วยัง

มารุกรานพื้นที่คนอื่น

“ถ้าเกิดเหตุกรณ์แบบนี้ แน่นอนมันจะเกิดขึ้นแน่ๆ กัป

พื้นที่เตียนโล่ง รอบๆ โต๊ะทำงานคุณ ดังนั้นอย่ายอมเด็ต

จงต่อสู้เพื่อรักษามันไว้ อยให้ใครเอาของมาวาง ในพื้นที่

เตียนโล่งของคุณ!”

“แฟ้มอ้วน ได้เวลาสะสาง

ข้อมูลบางอย่างในแฟ้ม มันลันทะลักออกมา

สิว่า สิ่งที่เก็บไว้ในแฟ้มนั้น มันล้าสมัย จนกลายเป็นขยะ หรือว่า

สมควรแก่เวลาโยนทิ้งได้แล้วหรือยัง อยงเอกสารข้อมูลบางอย่าง

มันมีกำหนดอายุของมัน

“ลดน้ำหนักแฟ้มอ้วน ทางคืนพื้นที่จัดเก็บ แล้วคุณจะรู้ว่า

โต๊ะทำงานของคุณ ยังมีพื้นที่เตียนโล่ง ให้ทวงคืนอีกมากมาย”

“แฟ้มผอม ได้เวลารวมพลัง

นอกจากแฟ้มอ้วนแล้ว พวกแฟ้มเล็กแฟ้มน้อย ที่เราพยายาม

แยกให้เป็นสัดส่วน แต่บางค

สิ่งที่เราแยกย่อย มันกลายเป็นเรื่อง

ยิบย่อยที่สร้างภาระ แยกจนลืมว่าอะไรอยู่ตรงไหนดังนั้นแฟ้มผอม

แห้งแรงน้อยทั้งหลาย คุณควรเอามันมารวมกันเป็นแฟ้มเดียว และ

แบ่งตัวหมวดหมู่ข้อมูลที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน

“แล้วคุณจะใช้แฟ้มน้อยลง และเลือกก็บแต่ข้อมูล

เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังง่ยแก่การจัดเก็บและ

ตรวจสอบ เวลาจะเก็บ หรือจะหา คุณจะไม่ต้องค้นหาในแฟ้ม

นั้นแฟ้มนี้ให้วุ่นวาย”

“ทำให้ชิน จนเป็น

เอกลักษณ์ของคุณ

โต๊ะทำงานที่เตียนโล่ง อาจดูแปลกและน่าใจหาย สำหรับ

คนรอบตัว ตราบใดที่โต๊ะทำงานของพวกเขายังรกอ

พวกเข้าจะ

ไม่รู้หรอกว่า พลังของโต๊ะทำงาน

ที่เตียนโล่งนั้น มันมหัศจรรย์แค่

ไหนแต่ถ้คุณทำคุณจะรู้ถึงพลังของมันอยู่คนเดียว ดังนั้นจงทำมัน

อย่างสม่ำเสมอ ให้เป็นเอกลักษณ์ของคุณ

ไม่นานทุกคนรอบตัวจะรู้ว่า ถ้าเป็นคุณตัวจริง

ต้องมีโต๊ะทำงานที่เตียนโล่ง ถ้าวันไหนโต๊ะรก

แสดงว่าเป็นตัวปลอม

หรือกินยาลืมเขยขวดอย่างแน่นอน”

“โต๊ะเตียนโล่งไม่ได้แปลว่าว่าง

ใครอย่าเอาของมาวางหรือเอางานมากองนะ

คนที่ไม่รู้จักความปลอดโปร่งโล่งสบาย เขาจะไม่เข้าใจ ความ

เตียนโล่งของคุณ พอเห็นโต๊ะคุณว่าง เขาจะเดินเอาของมาวางหมับ

มันจะเป็นแบบนี้จริงๆ นะ ใครเดินผ่านก็วางหมับ

ทั้งแก้วน้ำ

กระเป้า เพราะมันโล่งน่วาง ว่างเปล่าสบายตา โดยไม่สนใจ ว่าคุณ

เก็บแทบตาย กว่าจะได้ขนาดนี้

“เมื่อไหร่ที่คุณทำโต๊ะทำงานเตียนโล่งได้สำเร็จ คุณต้อง

ระวังไว้ให้ดี อยให้ใครเอาของมาวางบนโต๊ะคุณ ไม่อย่างนั้น

ทุกอย่างที่ทำไป จะไร้ความหมาย ช่วงแรกๆ อาจยุ่งยากและ

ดูใจแคบ ที่จะบอกทุกคนว่า ห้ามเอาของมาวางบนโต๊ะคุณ แต

สักพักพวกเขาจะปรับตัวได้ และไม่วางของอย่างมักง่าย บน

โต๊ะทำงานของคุณอีก”

JAGR

LPAND

นอกจาก

เวลาที่คุณทำงานที่วางแผนไว้ แต่ละวันเสร็

พร้อมก็บโต๊ะจนเตียนโล่งแล้ว จะมีคนบางคนคิดว่คุณว่างงานและ

อางานมากองบนโต๊ะ หรือซอร้องให้คุณช่วยทำนั่นทำนี่ ทั้งๆที่คุณ

เก็บของจนเรียบร้อยแล้ว ถ้คุณรับปากที่จะทำ คุณก็ต้องรื้อของออก

มาอีก และเก็บใหม่ แล้วชีวิตนี้จะได้หยุดหย่อนบ้างไหม

“คุณต้องปกป้องตัวเอง ทำให้ทุกคนเข้าใจ ไม่เว้นแม้แต่

หัวหน้าหรือว่าเจ้านาย ว่ที่โต๊ะทำงนคุณเตียนโล่งไม่ได้แปล

ว่าคุณว่าง แต่เพราะคุณจัดการแต่ละวันได้ดี และอย่ามาทำ

คุณ ต้องเสียระบบระเบียบ ยุ่งเหยิงจนนาทีสุตทาย เหมือน

พวกเขา”

2b

“โต๊ะทำงานเตียนโล่ง

ทั้งเช้าและเย็น”

นั่นคือสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ก่อนเริ่มงานตอนเช้า โต๊ะ

ทำงานของคุณ ต้องพร้อมให้จัดสรรการงานอย่างเต็มที่

นั่นแปลว่าตอนเย็นของเมื่อวาน คุณต้องทำให้มันเตียนโล่ง

เพื่อรับรับเช้าวันใหม่อย่างเข้มแข็ง

“ถ้าคุณทำไม่ได้

มต้นการทำงานด้วยความ

ยุ่งเหยิงทุกเช้า

เพราะงานเก่าๆ

ข้าวของตกค้างบนโต๊ะ ที่ตกค้างจาก

เมื่อวาน มันกองรอคุณอยู่ตั้งแต่ตอนเย็น ให้คุณมาหัวหมุน

กับมัน ในเช้าวันใหม่

วนเวียนไปแบบนี้เป็นวงจรทับถม เป็นชีวิตที่ไร้คุณภาพ

เป็นกรทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ”

คุณจะเริ่ม

3.

เตียนโล่ง

ทุกพื้นที่ในชีวิต

การจัดระเบียบเป็นงานหนักในช่วงแรก

ต้องใช้พลังใจเปี่ยมล้น เพื่อเอาชนะความเคยชิน

และต้องอาศัยระเบียบวินัย สร้างนิสัยเตียนโล่งให้เคยชิน

เมื่อหยุดสะสม คุณจะไม่ต้องเหนื่อยกับการสะสาง

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ต้องกรระยะห่างสำหรับทุกสิ่ง

ที่ว่างของชีวิต เป็นสิ่งสำคัญ ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม

ชีวิตพวกขาจึหมคนวุ่นวาย อยู่กับปัญหาไม่รู้จบ

ถ้าคุณอยากหยัดยืนปลอดโปร่ง มั้นคง

จงทิ้ง ทิ้ง และทิ้งซะ เพื่อชัยชนะของชีวิต”

“บ้านเตียนโล่ง ชีวิตรื่นรมย์

ความเตียนโล่ง ควรเริ่มจากที่บ้าน ไม่ว่าตอนนี้คุณจะอาศัย

อยู่ที่ไหนก็ตาม ที่ที่คุณซุกหัวนอนในยามที่เหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็น

คอนโดเล็กๆ บ้านเซ่า บ้านของครอบครัว ถือได้ว่านั่นคือบ้านของ

คุณ ชีวิตเตียนโล่ง ต้องเริ่มต้นที่บ้านเป็นที่แรก เพื่อฝึกการจัดระบบ

ระเบียบชีวิต

เอาล่ะ “เพื่อชีวิตที่รื่นมยจกวันนี้และวันต่อไป ได้เวลาลืมตา

ตื่น แล้วหันมองบ้านคุณให้เต็มต สูดลมหายใจเข้าปอด รวบรวม

พลังชีวิต และเริ่มภารกิจเตียนโล่งเดี๋ยวนี้!”

“การเริ่มต้นจัดระเบียบบ้าน

เป็นงานหนักแค่ช่วงแรก

“ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่า จะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ด้วยการ

เริ่มต้นความเตียนโล่งที่บ้านของคุณ ก่อนอื่นจงทำใจให้หนักแน่น

แน่นอน งนหนักกำลังรคุณอยู่” ไม่ใช่เพียงแค่การใช้แรงงานจัด

ระเบียบข้าวของ แต่คุณยังต้องใช้แรงใจ ต่อสู้กับแรงเสีย

ฉียดทานของ

คนรอบตัว โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่

เพราะทันที

ที่คุณหยิบเศษกระดาษบนโต๊ะกลางในห้องรับแขก หรือหยิบหมอน

เน่ๆขึ้นรดำ โยนลงถังขยะ จะมีเสียงร้องโหยหวนจากสมาชิกใน

ครอบครัวของคุณดังขึ้นทันที!

ไม่ใช่แค่คุณที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ไร้ประโยชน์

แต่คนรอบตัวคุณ จะยืดติดดึงดันยิ่งกว่า

นี่คือกำแพง ขว้างกั้นความเตียนโล่ง

ที่คุณต้องก้าวข้ามไปให้ได้”

ไม่ว่จะยังไงก็ตาม “บอกกับตัวเองว่า อย่ายอมแพ้เสียง

โหยหวนแห่งความเสียดาย ของใครก็ตาม จงเอาชนะ ความรกที่

บังตบังใจ แล้วก้ไปสู่ความเตียนโล่งให้ได้”

“กรจัดระเบียบบ้น จะเป็นงานหนักในช่วงแรกเหมือน

การเดินผ่านพื้นที่ที่มีแรงเสียดทานสูง คุณต้องพยายาม

เอาชนะปัจจัยแวดล้อม ก่อนก้าวไปสู่ความเตียนโล่งให้ได้”

เมื่อหลายก่อน แม่ของฉันสะสมไม้จากบ้านเก่าไว้กองใหญ่

ซื้อก็ไม่ยอมขาย

ด้วยความเชื่อมั่นวสักวันมันจะมีประโยชน์ ใครขอ

กองไว้หลายปี จนปลวกกินไม้ดีๆ

ไปมากกว่าครึ่ง

แต่แม่ฉันยังไม่

ยอแพ้ พยายามพ่นยา ย้ายกองไม้หนีบ้าง ตัดรอยที่ป

และย้ายที่วางบ้าง แต่ไม่ว่แม่จะพยายามสักเห่ไหร่ ความจริงก็ไม่

เคยเปลี่ยน นั่นก็คือ ยิ่งนาน ไม้ยิ่งผ ปลวกยิ่งกิน รก รก และรกสุดๆ!

ตอนเริ่มนโยบายเตียนโล่ง ฉันพยายามกำจัดไม้กองนี้นาน

กว่า 2 ปี อย่างไม่ยอมแพ้ ในขณะที่แม่ค้านหัวชนฝาอย่างไม่ยอม

แพ้เช่นกัน ฉันจึงเริ่มวางแผนอย่างช้าๆ

“ะเบียบขึ้น ผลลัพธ์คือหลังจัดระเบียบเบื้องต้นเสร็จแล้ว ก็มีพื้น

ข้างสวนหย่อมเพิ่มขึ้น แม่ฉันจึงปลูกผักสวนครัวได้อีกเล็ก

ด้วยการทำที่จัดเก็บไม้ให้

ปลวกแทะทิ้ง

พอได้ปลูกผัก แม่ของฉัน เริ่มเห็นประโยชน์ของความเตียน

โล่งจากนโยบายจัดระเบียบพื้นที่ของฉัน และค่อยๆ ทยอยขาย

เก่ที่กองไว้ในที่จัดเก็บออกไปเรื่อยๆ จนพื้นที่โล่งข้างสวนเพิ่ม

ให้แม่ได้ขยายพื้นที่ปลูกผักสวนครัว ปลูกต้นไม้ดอกไม้ที่ชอบ หลัง

จากนั้นไม่ว่าฉันจะทิ้งอะไร แม่ไม่เคยคัดค้านอีกเลย

พอกำจัดกองไม้เก่ได้สำเร็จ ฉันก็เริ่มทิ้งโต๊ะขาหัก เก้า

อขาเก

ที่นอนเก่า มุ้งขาดๆ

เสื้อผ้าตกยุคที่หมกอยู่ในห้องเก็บของ กรงหมา

เก่าขึ้นสนิม ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อรั่วๆ แตกๆ

ในครัว ขนทิ้งให้หมด

โดยที่สมาชิกในบ้าน ไม่คัดค้านอีกต่อไป

“หลังจากปฏิวัติความคิดคนใกล้ตัวได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเก็บหรือ

จะทิ้งอะไร คุณจะทำได้ดั่งใจปรารถนา”

“ยิ่งรกยิ่งขี้เกียจ

ยิ่งทำให้เราหลับตามองข้ามทุกสิ่ง

“น้ำหนักข้าวของเครื่องใช้ที่ไร้ประโยชน์ คือน้ำหนักส่วนเกิน

ของชีวิต” สิ่งแวดล้อมที่รกรุงรัง จะทำให้ใจเราเศร้าหมอง เฉื่อยชา

เป็นที่มาของความขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่ง เราจะเห็นได้ว่า คนที่

ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่ จะเจ้าระเบียบ เหมือนตาแก่

ยายแก่ขี้บ่น จู๊จี้จุกจิก

nerหaign

ทำไมระเบียบวินัยของชีวิต มีความสัมพันธ์กับความสำเร็จ

ของชีวิต เพราะความสำเร็จ ต้องอาศัยวินัยขั้นสูง “ถ้าแค่จัดระเบียป

ข้าวของเครื่องใยังทำไม่ได้ คุณจะไม่มีวันไปถึงจุดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้

ได้เลย” คุณอาจเถียงว่ไม่จริงหรอก โต๊ะทำงานของเจ้านายคุณก็

รกสุดๆ แต่จ้านายคุณยังประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นเจ้าของ

การใหญ่โต มีเงินจ้างพนักงานเป็นร้อยเป็นพัน หรือศิลปินร

โลกมากมาย

ก็มีห้องทำงานที่ี

เจ้าตัวเท่านั้น

รกจนไม่มีใครหาของเจอ นอกจากเจ้าตัวเท่านั้น

“เวลาที่เราเห็นความรกรุงรังของใครสักคน โดยเฉพาะบุคคล

สำคัญที่ประสบความสำเร็จระดับโลกทั้งหลาย สิ่งที่เราเห็น มัก

ไม่ใช่สิ่งที่เป็น” เพราะคนพวกนั้นจะโต๊ะรกจริงๆ

ในเวลาที่ทำงาน

ตอนที่เราเห็นโต๊ะทำงานของพวกเขา

ก็ในตอนที่พวกเขามีงานกอง

สุมหัว แต่สิ่งที่หลายคนไม่มีโอกาสได้เห็นก็คือ ก่อนเริ่มงานกับหลัง

เลิกงาน โต๊ะของพวกเขาจะอยู่

ในสภาพเตียนโล่ง! และนั้นเป็นสิ่งที่

บุคคลภายนอก แทบไม่มีโอกาสได้เห็นเลย นอกจากโต๊ะทำงานใน

ที่ทำงานแล้ว โต๊ะทำงานที่บ้านของคนเหล่านี้

จะไม่มีกระดาษวาง

ทิ้งไว้แม้แต่แผ่นเดียว!

“ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่มีปัญหาชีวิตไม่หยุดไม่หย่อน ไม

ว่าจะเป็นเรื่องการงานการเงิน ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว

ปัญหาเหล่นี้กำลังสะท้อนส่วนเกินของชีวิต

เพื่อเรียกร้องให้คุณหันมาจัดกร กับสัดส่วนของชีวิตให้

สมดุล แต่ตราบใดที่ชีวิตคุณยังหนักหน่วงและรกรุงรัง คุณจะ

ไม่มีวันมองเห็น ต้นตอของปัญหา”

“ยิ่งสะสมซากเน่า

ยิ่งทำให้ชีวิตเน่าเสีย

หลายคนคงจำได้ดี ในปี พ.ศ. 2554

และปริมณฑล เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความเสียหายให้กับบ้าน

เรือนอย่างมหาศาล

ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน จมน้ำเสียหาย หลาย

หมู่บ้านจมน้ำอยู่นานนับเดือน เพื่อนฉันหลายคน อาศัยอยู่แถวรังสิต

ดอนเมือง และหมู่บ้านต่างๆ แถวๆ คลองหลวง หลังจากเหตุการณ์

คลี่คลายลง ผู้คนก็กลับเข้าไปอยู่ในบ้าน และชีวิตก็ดำเนินต่อไป

หลังเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านไป 2 ปื ฉันมีโอกาสได้ไปเที่ยว

บ้านเพื่อนแถวลำลูกกได้ข่วว่าตอนน้ำท่วมใหญ่ หมู่บ้านนี้จมน้ำ

นานอยู่หลายเดือน แน่นอนพวกฟอร์นิจอร์ไม้ต่างๆ ที่อยู่ชั้นล่งจะ

เสียหายทั้หมด ฉันดินเล่นในชอยบ้านเพื่อน สังเกตบ้านอื่นๆ ที่อยู่

ใกล้ กัน ก็เห็นบางสิ่งที่ทำให้แปลกใจ นั่นก็คือ ทั้งๆ ที่เหตุการณ์

วมผ่านมานานถึง 2 ปีแล้ว แต่บ้านแทบทุกหลังในซอยนี้ ยัง

กองชกโฟา ชกตู้ที่ยยุ่ยพราะแซ่น้ำ ซากเคาท์เตอร์ห้องครั้ว

ผุผังรถเข็นเด็กสนิมกรอะกรัง ยังกองไว้ข้างบ้าน เป็นซากเน่ที่เห็น

แล้วชวนฝันร้ายสุดๆ

น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ

พอเห็นสถาพหล่านั้น ฉันจึงเข้าใจทันที ว่ทำไมทุกครั้งที่มี

ซึ่งเป็นซอยบ้านเพื่อนฉันเอง ยัง

การประชุมหมู่บ้าน คนในซอย 6

หวาดผวา และครามเรื่องน้ำท่วมอย่างไม่หยุดหย่อน

ทั้งๆ ที่เรื่อง

เราควรเริ่มต้นใหม่

ร้ายผ่านไปนานแล้ว และชีวิตต้องดำเนินต่อไป

อย่างสดใสและมีความหวัง แต่พวกเขา ยังเก็บซากเน่ากองเอาไว้ดู

ต่างหน้าแม้แต่เพื่อนฉันก็ไม่ว้น เธอยังกองซากกระถางต้นไม้แตกๆ

กองใหญ่ เอาไว้หนบ้าน เพื่อเป็นที่ระลึก!

พอฉันถามว่าทำไมคนซอยนี้ยังเก็บอนุสรณ์น้ำท่วมใหญ่เอา

ไว้อย่างครบถ้วน ในขณะที่ซอยอื่นๆ ขาเคลียร์หลักฐานเรียบร้อย

ราวกับว่ไม่คยมีอะไรเกิดขึ้น แต่คนซอย 6 ยังกองของเน่าๆ ไว้ข้าง

บ้านบ้าง ในโรงรถบ้าง หนบ้านบ้าง ทำไมไม่ทิ้ง เท่านั้นล่ะ เพื่อน

ของฉันก็ร่ยาวทันที ว่มันไม่ได้ทิ้งกันง่ายๆ นะ ยิ่งของขึ้นใหญ่ๆ

ต้องจ้งรถขยะเทศบาลมาขนไปทิ้งเป็นกรณีพิเศษ

พอน้ำลด ทุกคนก็ซ่อมบ้าน ซ่อมของ ทำงาน ทำการ ไม่มีใคร

มีเวลามาทิ้งขยะหรอก (เอ่อ 2 ปีผ่านไป ขยะยังกองไว้ที่เดิมเนี่ยนะ

อ้างอะไรก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น) แต่ถ้ให้ฉันเดาว่าทำไมคนในซอยนี้จึง

หมกขยะไว้เหมือนกันทุกบ้าน น่าจะเป็นเพราะ บรรยากาศที่พากัน

ไปมากกว่ บ้านนั้นก็ไม่ทิ้ง บ้านนี้ก็ไม่ทิ้ง กองไว้ตามๆ กัน

บรรยากาศเน่าๆ หนอนๆ มันหลอมรวมกัน กลายเป็นควา

ขึ้นของทุกคนในชอย พอบ้านหนึ่งกองทิ้งไว้ บ้านอื่นๆ ก็กอ

ด้วยความรู้สำที่ว่ กองไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยทิ้ง แล้วก็เดี๋ยวไปเรื่อยๆ จน

2 ปีผ่านไป ขยะเน่ายังกองไว้ที่เดิม!

“คุณเห็นหรืยังว่าอานุภาพแห่งความเคยชิน และกร

ยึดติดนั้น มันรุนแรงขนาดไหน

ไม่ใช่แค่นิสัยแค่ความเคยชิน

ส่วนตัวเท่านั้น แต่มันยังครอบงำผู้

คนและสถานที่ ให้เป็นไป

ตามกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ซากเน่ที่ไม่งดงาม จะทำให้บรรยากศรอบตัวเน่าเสีย

กลายเป็นสิ่งแวดล้อมเน่เสีย โอบกอดตัวเรา หล่อหลอม ความ

รกรุงรังให้เป็นเรื่องธรรมดา เรียกว่าเคยชินกับความรก เคยซิน

กับความทุกข์ จมปรักอยู่อย่างนั้น แบบไม่รู้ตัว

ไม่ว่าจะเป็นความเตียนโล่ง หรือความรกรุงรัง ก็เหมอ

เชื้อไวรัส ที่สามารถส่งต่อ ถึงกันและกันได้ สิ่งแวดล้อม จ

เรื่องใหญ่ที่คุณต้องใส่ใจอันดับต้น ๆ”

“”เปิดพื้นที่แดนสนรยา

ถึงเวลาต้องสะสาง!”

ขึ้นซื่อว่าที่อยู่อาศัย ไม่ว่จะเป็นบ้านใหญ่ บ้านเล็ก หรือ

แม้แต่คอนโดแบบสตูดิโอเป็นห้องเล็กๆ

ไม่มีการกั้นห้อง สำหรับ

อยู่คนเดียว ก็มีแดนสนธยาเป็นของตัวเอง

“แดนสนธยาที่ว่า คือที่

ลับต เป็นมุมอับสายตที่คนเราจะโยนทุกสิ่งทุกอย่างที่ไร้ประโยชน์

ไปเก็บเอาไว้” อย่างห้องเก็บของ

เสื้อผ้า ตู้ใต้อ่างล้างหน้า ตู้แขวน

หลังระเบี่ยง

นี่คือแดนสนธยายอดฮิต

ที่คนส่วนใหญ่เอาแต่สะสม แบบ

ไม่มีกำหนดสะสาง

ตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ไร้ประโยชน์ ตะกอน

อดีตที่ไม่อยากจำ ของเก่าในความทรงจำ

ที่แสนเสียดาย และสิ่งที่

คาดว่าจะได้ใช้ในอนาคต (จนชาติหน้าก็ยังไม่ได้ใช้!)

“ได้เวลาเปิดพื้นที่แดนสนธยา แล้วสะสางทุกสิ่งให้

โปร่งใส และจงทำทันทีอย่าได้ลังเล”

สะสางห้องเก็บของให้เตียนโล่ง

เพื่อก้าวไปสู่อนาคต

ห้องเก็บของ สำคัญไม่แพ้ห้องนอน ดังนั้นบ้านทุกหลัง ห้อง

ทุกห้อง จะมีส่วนหนึ่งของบ้าน ถูกกันไว้เป็นที่เก็บของ ไม่ว่าจะเป็น

ห้องเล็กๆใต้บันด หรืตูบใหญ่ที่ตั้งไว้หลังบ้าน “ขึ้นชื่อว่าห้องเก็บ

ของ แม้จะฟังดูดี แต่หน้ที่ของมันก็คือ ก็บสิ่งที่ไม่ได้ใช้ ส่วนใหญ่

เป็นของที่เคยมีความหมายในอดีต”

อย่างเช่น เสื้อผ้าเก่ๆ ของใช้เก่าๆ อะไรก็ตาม ที่ไม่สามารถ

วางอยู่ในห้องหรือตู้โชว์ ของบ้านได้อย่างมีประโยชน์ มันจะถูกโยน

มาเก็บไว้ในห้องเก็บของ ด้วยความหวังที่ว่า สักวันจะมีประโยชน์

จนหลายปีผ่านไป ของเหล่นี้ก็สะสมเป็นปมอดีตที่หนักหน่วง ถ่วง

ความเจริญ!

“ของส่วนใหญ่

ที่ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของ ก็เหมือนความ

รักเก่า ความสัมพันธ์ที่แตกหก ซึ่งเรายังเก็บกอดมันไว้ด้วยความ

อาลัย” ทั้งๆ ที่รู้อยู่ต็มอกว่ามันจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม สิ่งที่

อยู่ในห้องเก็บขอ มักเป็นสิ่งที่ผูกพันตัวเรากับอดีตที่ไร้ประโยชน์

เป็นตัวถ่วงหน่วงหนัก ไม่อาจใช้ชีวิตปัจจุบัน ให้ดีพอ เพื่อก้าวไปสู่

อนาคตที่ดีกว่า

“จงเปิดห้องเก็บของ ที่เต็มล้นของคุณอย่างกล้าหาญ

ต่อกรกับอดีตที่หอมหวานและขมขื่น

โยนสิ่งที่ควรทิ้ง ทิ้งไปให้หมด

แล้วก้วไปสู่อนาคต ด้วยปัจจุบันที่เข้มแข็ง”

ตู้เสื้อผ้าเตียนโล่

พื่อการยอมรับและเข้าใจตัวเอง

กัที่ที่ตู้เสื่ออย่างใส่ใจ คุณจะเข้ใจตัวเองมากขึ้น”

ราะคุณจะได้ใช้เวลาพินิจพิจารณาเสื้อผ้าแบบต่างๆ

เสอยู่ทุกวันอย่างใส่ใจ คุณจะเห็นความเปลียนแปลง เห็นคว

บกพร่อง เห็นสิ่งที่นตกใจ และหันมามองตัวเองในกระจกอย่าง

มตา พร้อมกับยอมรับและเข้าใจว่าเวลานี้คุณคือใคร และยืนอยู่

จุดไหนในชีวิต

“ความเคยชิน ทำให้เรามองเห็นตัวเองในจุดเดิมอย่าง

ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อสิบก่อนเป็นแบบไหน สิบปีต่อไปก็เป็น

แบบนั้น ปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิม

คุณคงสงสัยว่แค่จัดตู้เสื้อผ้า ทำไมเราถึงเข้าใจตัวเอง

ได้ คำตอก็คือ คุณจะมองเห็นเสื้อผ้าของคุณอย่างซัดเจนเห็น

ความสัมพันธ์ และไม่สัมพันธ์กับตัวตนในปัจจุบันที่คุณเป็นอยู่

แล้วคุณจะปัญหามากมาย ที่คุณคยมองข้ามไปด้วย

ความคยชิน หลัจัดตู้เสื้อผ้า คุณจะมองเห็นปัญหาและกล้า

เคยสงสัยไหมว่ ทำไมคนบางคน แต่งตัวไม่เหมาะกับวัย

ลเทศะ เช่น ผู้หญิงวัยคุณย่า คุณยาย อายุเกิน 50 ปีไปแล้ว

ที่คุณสวม

แต่ใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ ใส่เสื้อสายเดี่ยวเว้าหน้าเว้าหลัง หรือสาว

วัยทำงานอายุ 30

ขึ้นไป แต่ถือกระเป้าสะพายลายคิตตี้ไ

ไปทำงาน

ผู้หญิงวัยกลางคน อายุเกิน 40 ใส่กางเกงโชว์แก้มก้น ใสเสื้อวัยร่

ไม่สมวัย ทำไมผู้ใหญ่บางคน ใส่ชุดดำไปงานแต่งงาน ใส่ชุดแดง

ไปงานศพ

“หลายคนลืมไปว่า วลาเปลี่ยนตัวเราเปลี่ยน คนอื่นเปลี่ยน

ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราย่อมเปลี่ยนแปลง ดังนั้นสถานะของคุณ วัน

วัยของคุณ จะเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน” ในขณะที่คนบางคนไม่รู้ตัว

ยังใช้ชีวิตอยู่กับความเคยซินเหมือนเดิม นั่นคือ ใสเสื้อผ้าแบบเดิม

ใช้กระเป้าแบบเดิม สวมรองเท้าแบบเดิม ง่ายๆ ชิวๆ เหมือนเดิม ใน

ขณะที่ความจริงวันเวลา ทำให้เรที่เปลี่ยนไปอย่างซ้ำๆ ถ้าไม่สังเกต

เราจะไม่รู้ตัวเลย

“เสื้อผ้าที่คุณเคยใส่แล้วสวย

น่ารัก เหมาะสมเมื่อสิบปี

ก่อน แต่ตอนนี้มันอาจไม่เหมาะกับคุณแล้ว ข้าวของบางอย่าง

ที่เคยถูกกาลเทศะตอนนี้กลับไม่ใช่แล้ว

แต่ความเคยชิน ทำให้คุณไม่รู้สึกตัว และหยิบมันมาใส่

และเข้าใจว่าเหมาะสม

ในขณะที่วัยคุณเปลี่ยน รูปร่างคุณ

เปลี่ยน สถานะทางกรงาน ทางสังคมของคุณเปลี่ยนไปแล้ว

เวลาผ่นไป ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเสื้อผ้าข้าว

เครื่องใช้ บนร่ายกายคุณ ก็ควรเปลี่ยนไปตามความเหม

จากที่เคยเห็นหนุ่มน้อย สาวน้อย ใส่อะไรก็ได้ แต่งอ

เช่นกัน”

สวย ง่ยๆ สบายๆ กลายเป็นววันนี้มันไม่ใช่แล้ว ตอนนี้คุณอา

เป็นผู้ใหญ่ ต้องใช้ภาพลักษณ์และความนำเชื่อถือเพื่อทำมาหากิน

จากที่เคยเป็นคนตัวเล็ก

ที่ไม่มีคนสนใจ แต่ตอนนี้คนภายนอกจับ

จ้องมองคุณทุกอิริยาบท ผิดกับสมัยก่อน ที่เป็นหนุ่มสาวตัวเล็กๆ

ใส่ชุดแดงไปงานศพก็ไม่มีใครสนใจ ใส่กระโปรงสั้นแค่คืบก็น่ารัก

น่าเอ็นดู แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว

“เราควรโละเสื้อผ้ในตู้บางตัวทิ้งไปบ้างในช่วง 5 ปี 10

ปี 15ปี 20 ปี เพราะแฟชั่นบางอย่าง เสื้อผ้าบางชุดมันมีเวลา

ของมัน เมื่อเลยจุดที่เหมาะสมไปแล้ว มันจะขัดกับวัย ขัดกป

รูปร่างและบุคลิก ผิดกลเทศะ

กรจัดตู้เสื้อผ้ นอกจากกำจัดขยะส่วนเกิน ที่เราโฮน

มาเก็บไว้ ให้พ้นหูพ้นตาแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญ ให้เร

ทวนตัวเอง มองเห็นความจริง และเปลี่ยนตัวเองไป

ความเหมาะสม อย่างยอมรับและเข้าใจ”

ก้มมองใต้ตู้ ใต้เตียง ใต้ชั้นลึกลับ

เก็บให้เตียนโล่งขับไล่ความเศร้

หลายคนคงมีกล่องของความเศร้าซุกซ่อนไว้กับตัวเอง กล่อง

ที่รวบรวมข้าวของบางอย่าง ที่เคยเป็นความทรงจำแสนดี แต่พอบาง

สิ่งเปลี่ยนไป มันกลับกลายเป็น

“กล่องของความเศร้า ที่ร้อยเราไว้

กับความผูกพันที่เจ็บปวด คือจะทิ้งก็เสียดาย จะเก็บไว้ให้ดีกว่านี้ ก็

มีเจ็บปวดทุกทีที่เห็น”

อย่างเช่น รูปถ่ายที่เป็นความทรงจำของความรักเก่า ของขวัญ

ของความรักเก่า เรื่องราวของคนรักเก่า หรือเรื่องราวของอดีตเพื่อน

รัก ที่ตอนนี้กลายเป็นศัตรู

อะไรก็ตามที่เคยสร้างสุข และกลายเป็น

สิ่งแสลงใจ เราจะโนมันลไปใกล่องใบใหญ่ ใส่กล่องปิดฝา โยน

ไว้ใต้เตียง ซุกไว้ใต้ตู้

ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มี หลอกตัวเองว่าลืมไป

ทุกสิ่ง แต่มันมีกลิ่นไอความเศร้าเต็มลันและฟุ้งกระจายอยู่รอบตัว

เรา แม้ตามองไม่เห็น แต่หัวใจสัมผัสได้ตลอดเวลา

“ลองก้มมองใต้ตู้ ใต้เตียง หรือบนหลังตู้ของคุณให้

พื้นที่แตนสนธยาแห่งนี้ มีความเศร้าซุกซ่อนอยู่หรือ

เต็มตา

เปล่า

ที่เก็บข้าวของไร้ประโยชน์

งตัดใจโยนมันทิ้งซะ ตัดขาดจากสายใยเดิม ๆ แล

จะมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ

สายใยชีวิต สายสัมพันธ์ใหม่ๆ จากโลกภายนอก จะเริ่ม

ถักทต่อเติมและขยับขมาใกล้คุณอย่างซ้ำ ๆ เมื่อถึงเวลาที่

เหมาะสม

ชีวิตที่นเบื่ ผู้คนที่น่รำคญจะค่อยๆ หายไป คุณจะ

สนุกกับสิ่งใหม่ และมีชีวิตใหม่ในแบบที่ใจคุณต้องการ”

ถ้าคุณเจอกล่องเก่าๆ

แจกใหญ่ไปเล็ก ขยับเข้าใกล้ตัวเรา

เตียนโล่งเข้ามาเรื่อยๆ

ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นความเตียนโล่งที่ตรงไหน ให้คุณมองจาก

ภาพใหญ่ๆ ก่อน แล้วขยับเข้ามาใกล้ตัวเองอย่างซ้ำาๆ

อย่างเช่น ถา

จะเริ่มต้นนโบายบ้านเตียนโล่ง คุณต้องเริ่มตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า

บ้าน แล้วขยับเข้ามาอย่างซ้ำๆ ข้ใกล้ตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แล้วคุณจะมองเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยหัวใจที่ละเอียดอ่อน

มากขึ้นเรื่อยๆ “คุณจะเข้าถึความเตียนโล่งในทุกพื้นที่ของชีวิตโดย

N

อัตโนมัติ เมื่อคุณติดนิสัย ละวาง ว้นที่ว่างเตียนโล่ง ไว้วางความสุข”

เริมจากประตูทางเข้าบ้านที่เตียนโล่ง

เคลียร์พื้นที่รกร้าง คลียร์กิ่งไม้ใบไม้ ที่ตั้งถังขยะ อะไรที่รก

หูรกตา กำจัดทิ้งอย่ได้ซักข้ หลายคนชอบปล่อยให้ประตูทางเข้า

บ้านรก เพราะคิดวมันอยู่นอกบ้าน เข้บ้านไปก็ไม่เห็นแล้ว แต่

ความจริง สิ่งที่ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกทันทีที่เห็นก็คือ ทาง

เข้าบ้านนั่นเอง

เมื่อใหร่ที่คุณยืนอยู่นอกรั้วบ้าน และความอบอุ่นโปร่ง

แปลว่า คุณเข้าใกล้ความเตียนโล่งที่ยังยืน Y

ว คุณจะเริ่มรู้สึถึงพลังแห่งความเปลี่ยนแปลง และ

ผลักดันในการจัดระเบียบอย่างแกร่งกล้า เหมือนคนร้อนวิช

สนุกสนาน งมั่นทุ่มเท อย่างไม่รู้เบื่อ”

ให้หญ้ารก หรืตันไม้เกะกะมีดครึ้ม

งงาหงอย”

ทางเดินเตียนโล่งไปสู่ตัวบ้าน

ก่นถึงตัวบ้าน คือทางเดินที่ต้องก้าวผ่าน นั่นคือส่วนที่จะ

ทำให้คุณปิดใจ คล้ายกับหน้าต่างของหัวใจ

คุณจะได้ระบายความร้อน ระบายความทุกข์ มองโลกได้กว้

ที่ต้องเปิดไว้ให้ชิ

ใจเย็นมากขึ้น ระหว่างทางกว่าจะไปถึงตัวบ้าน คือพื้นที่ว่า

การความเตียนโล่ง เพื่อสร้างความผ่อนคลาย “อย่าปล่อ

โล่งจากในบ้าน สะท้อนเข้ามาในหัวใจ

เพราะมันจะทำให้คุณหดหู่

คุณสามารถลดภาระในการดูแลสวน หรือทางเดินไปสู่ตัว

บ้านด้วยการจัดสวนหินที่ดูแลง่าย การเทพื้นด้วยคอนกรีต อาจทำให้

บ้านร้อนและแข็งกระด้าง แต่ถ้าปูด้วยอิฐตัวหนอน หรือคลุมดินด้วย

เตป้องกันหญ้าขึ้น แล้วรยกวดก้อนใหญ่ สลับกับปูหินแผ่นใหญ่

เป็นทางเดินไปสู่ตัวบ้าน

บริเวณใกล้ๆ

ก็ตกแต่งตัวรูปปั้นสัตว์นรัก เพื่อสร้างชีวิตชีวา

แม้ว่าสวนของคุณจะมีต้นไม้น้อย

เพื่อลดภาระในการดูแล แต่คุณ

สามารถชดเยความอ่อนหวานนรักได้ด้วยรูป

ปั้น และก้อนหินโค้ง

มนแบบต่างๆ

ไม่ต้องลงทุนมากมาย แค่ลงแรงเล็กน้อย คุณจะได้

พื้นที่เตียนโล่ง โปร่งสบาย และไม่สร้างภาระในการดูแลรักษามาก

เกินไป

สิ่งเหล่านี้คุณต้องลงแรงด้วยหัวใจ และไม่ได้ใช้เงิน

ทองมากมายอะไรเลย ยิ่งคนที่อยู่คอนโด กรดูแลประตูทาง

เข้าห้องของคุณ ยิ่งเป็นเรื่องง่ยดาย

คุณก็แค่ อยแขวนอะไรรคๆ

ไว้หน้าประตู และดูแล

ทางเดินหน้าประตูห้อง ให้โปร่งโล่ ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้อง

ไม่มีอะไรกวนตากวนใจนั่นแปลวคุณเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกหนึ่งก้าว”

เคยสั่งเกตจริงๆ จังๆ บ้างไหม ว่าห้องรับแขกของคุ

เพื่อรับแขก หรือไล่แขกกันแน่ ถ้าแม้แต่ตัวเองยังไม่อยาก

ย่าหวังว่าจะมีผื่อนดีๆ เข้ามาในชีวิต “ห้องรับแขก ห้องนั่งเด่นร

บนจะสะก้นดวามเป็นตของเจ้าของบ้านอย่างชัดเจนแม่นย่ำ

แค่ห็นห้องรับแขก ราจะรู้ได้ทันที ว่าคนคนนี้มีความเป็นมิตมท

แค่ใหน” คุณลองดูห้องรับแขกของคุณด้วยใจเป็นกลาง แล้วถาม

ตัวเรงว่า ชีวิตนี้มีเพื่อนแท้ที่จริงใจอยู่ที่คน

คำตอบที่ได้ มันช่างหดหู่น่าเศร้า ว่าทำไมเรามีแต่เ

ร้หักหลี่ยมโหด เพื่อนเราเผาเรือน เพื่อนกินจนสิ้นใจ เพื่อนที่แ

วนป็นสิ่งที่เราเลือกเอง เพียงแต่เราอาจไม่รู้ตัว ดังนั้น

ความจริงก็คือ

สิ่งดีสิ่งร้ายที่อยู่ในตัวร

ขกของคุณให้พร้อมรับแขกเสมอ สิงสำคัญที่ขาดไม่

ที่จะบอกให้ผู้มาเยือนรู้ว่า คุณยืน

ดอกไม้สักชอในแจกันสวยๆ

ต้อนรับด้วยไมตรีจิต”

หน้ากาก เลื่อยขาเก้า

เตียนโล่สะท้อนความเป็นมิตร

ห้องรับแขก ห้องนังเล่น

“จงจัดห้อง

อย่าวางของที่ทำให้แขกที่มาบ้านคุณรู้สึกอึดอัด กระอักกระอ่วน

ย่างหนังสือบางอย่าง ของใช้ส่วนตัวที่ควรเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว

นเคยไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนที่ไม่รับแขก แต่ฉันจำเป็น

ต้องไปเป็นแขก พอไปถึงก็เข้าใจเลยว่า ทำไมคนคนนี้ไม่มีใครคบ

สิ่งที่เห็นแล้วชวน

งและที่งก็คือ บนโต๊ะรับแขกมีทั้งถุงเท้า

ลชั้นกันแดด ครีมหาสันเท้าแตก และมีด! ใช่แล้ว ไม่ผิดหรอก มัน

คือมีดปอดผลไม้ปลายแหลมนหวาดเสียว วางเด่นเป็นสง่าอยู่บน

โต๊ะ ก็เข้ใจนะว่า วางไว้ชั่วคราว บางที่ก็วางไว้แล้วลืม แต่ของเหล่า

นี้ ไม่ควรวางในห้องรับแขก

“เมื่อไหร่ที่คุณอาแต่ใจตัวเอง ในพื้นที่ที่ต้องแชร์กับคน

อื่น แม้ว่าจะเป็นบนของคุณก็ตาม คุณจะติดเป็นนิสัย อะไร

ที่ไม่ควรทำกับใคร

คุณจะไม่รู้ตัว และตามใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนคน

ใกล้ตัวอึดอัด สุดท้ายคุณจะไม่รู้ตัวเลย ว่าตัวเองไม่นรัก ไม่

น่าคบ”

คือหตุผลสำคัญ ที่ทำให้คนอื่นตีตัวออกห่างคุณ แต่ค

จะไม่รู้สึกตัว และเอาแต่โทษคนอื่น บางสิงบางอย่าง และ “บ

ของชีวิต เราควรชร์กับคนอื่น พื้นที่ที่ต้องแคร์คนอื่น มากก

ง อย่างห้องรับแขกของบ้านคุณ เป็นที่ที่คุณต้องใส่ใจดูแลรักษ

พื้นที่นั้นไว้ เพื่อความสบายใจของคนอื่น” เราจึงเรียกพื้นที่แห่

ว่ห้องรับแขก พราะมันคือพื้นที่สำหรับแชร์และแบ่งปัน คุณจึงต้อง

ให้ความสำคัญกับความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเอง

ที่นอนเตียนโล่งสะท้อนเสียงของหัวใ

หลายคนวางทุกสิ่งทุกอย่างไว้บนเตียง ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋

เครื่องประดับ พราะเตียงใหญ่ และมีพื้นที่มากมาย เลยวางของใช้

มือ เรียกว่ากิน นอน ทำงาน แต่งตัวอยู่บนเตียงนอนเ

ถือเอาความสะดวกสบายเป็นหลัก หัวเตียงก็เต็มล้นไปด้วยห

ครื่องสำอาง โลชั่นตำงๆ นาๆ รวมทั้งตุ๊กตาใหญ่น้อยวางเรียงราย

หนลน ฝุ่นจับหนาเป็นคืบ บนเตียงมีเพียงที่ว่างเล็กๆ

ให้ยัดตัวเองลงไปนอนบนพื้นที่จำกัดด้วยความรันทน

นคือเรืองจริงของหนุ่มโสดสาวโสดในเมืองใหถ

นเดียวในโลกกว้างที่มีแต่การแก่งแย่งแข่งขัน พอกลับจากทำงา

พอดีตัว

ที่ใช้ชีวิต

ก็ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนือยล้า ลองหันไปมองตัวเองลิว่า

คือหนึ่งในคนเหล่านี้หรือเปล่า ถ้าใชรีบปฏิวัติตัวเองใหม่ เพื่อ

นอนที่เตียนโล่งโดยด่วน!

ที่นอนเตียนโล่ง คือ

เตียงนอน คือเสียงสะท้อนของหัวใจ

เสียงสะท้อนความหนักแน่นมั่นคงของเจ้าของเตียง แต่ “คนที่วาง

ของกองสุมไว้บนเตียงนอน เป็นกรสะท้อนความเหงา ความ

ขาดแคลนลึกๆ ในใจ ข้าวของที่กองบนเตียง เหมือนเกะกำบัง

ที่ใช้ปกปิดความอ่อนแอ” แต่มันจะยิ่งทำให้คุณอ่อนแอมากขึ้นจน

ขาดความพิถีพิถันในการเลื

อกคนคบ ขาดความรอบคอบในการมอง

คน สุดท้ายคุณจะเจ็บซ้ำ

ซ้ำซาก กับคำว่าคน!

“คนที่เตียงนอนรก เต็มไปด้วยขยะและข้าวของ มักถูก

เพื่อนเอาเปรียบ มีแต่คนไม่ดีเข้ามาหาผลประโยชน์ เจอแต่

ความรักที่หลอกลวง

ดังนั้นจงจำให้ขึ้นใจ ว่เตียงนอน ต้องเอาไว้นอนเท่นั้น

ทันทีที่คุณเข้านอน นั่นหมายถึงว่ โลกทั้งใบต้องหลับใหล

อย่างสงบ เพื่อให้คุณกักตุนพลังชีวิต ไว้ต่อสู้กับเช้วันใหม่

อย่างแ

เข็งแรงมั่นคง”

ถ้าคุณต้องนอนคนเดียว

a

แนะนำให้หาคนมานอนด้วยซีชั่ว

เดิม แต่คุณควรแก้ปัญหาด้วยการตัดใจ ลงทุนเปลียนเตียงนอน

อาจให้เล็กลงอีกนิด ให้ความรู้สึกอบอุ่นพอดี ไม่ใช่เอาข้าวของเ

ใช้ ไปวางบนเตียงให้มันรก

อาหารเป็นพิษ ท้องเสียบ่อยๆ

ห้องครัวหรือตู้เย็น เตียนโล่ง

สะท้อนคุณภาพชีวิต

ใครที่ไม่มีห้องครัว อยคิดว่าจะรอดตัวไปได้ ที่ไหนก็ตาม

ใช้เก็บอหาร คือตัวแทนห้องครัวทั้งนั้น ถึงคุณจะไม่มีห้องครัวเป็น

ของตัวเอง แต่ชื่อว่คุณต้องมีตู้เย็นอย่างแน่นอน

สะท้อนพฤติกรมการกินของคนเราได้อย่างชัดเจน

สิ่งที่อยู่ในตู้เย็น

มางบนแค่เปิดตู้เย็น ก็รู้เลยว่าคนบ้านนี้

นในเส้นเลือด โรคเบาหวาน หัวใจ ความดัน จะมาเยือนในไม่ข้

บางบ้านสภาพในตู้เย็นฟ้อซัดเจนว่า มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย

อุดมไปด้วยไร

และเตียงของคุณกว้างกินป.

เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่คา

สิ่งที่อยู่ในตู้เย็น สะท้อนให้เห็นคุณภาพชีวิตอย่างชัดเจน 

ลองเปิดตู้เย็นตัวเองดูสิ แล้วตอบตัวอย่างว่า ที่ผ่านมาคุณใส่ใจตัวเองแค่ไหน

 คุณใช้ชีวิตกินอยู่แบบมักง่าย เอาเปรียบตัวเองเกินไปหรือเปล่า 

หันมาจัดระเบียบตู้เย็น เพื่อสุขอนามัยที่ดี แล้วคุณจะสนุกกับการเลือกเก็บเลือกทิ้ง 

เพื่อตู้ที่เตียนโล่ง “ติดคลิปหนีบกระดาษไว้หน้าตู้เย็น หรือทำพื้นที่เล็กๆ ไว้แปะ

โพสอิท” ตกแต่งฝาตู้เย็น เป็นแนวที่คุณชอบ แบ่งโซนไว้อย่างเป็น

ระเบียบ เพื่อสร้างพื้นที่ตรงนี้ ให้ว่างไว้สำหรับเขียนติดสิ่งต่างๆ ติด

ไว้หนตู้เย็นว่า มีอาหารชนิดใดในตู้เย็นบ้าง และรายการไหนกำลัง

จะหมดอายุวันไหน คุณจะได้กินสิ่งนั้นก่อน

“เขียนรายอาหารที่ต้องกินก่อน ติดไว้หน้าตู้เย็น” วิธีนี้จะช่วย

ให้คุณประหยัด ไม่กินทิ้งกินขว้าง และไม่ต้องเสี่ยงกินอาหารหมด

อายุเพราะความเสียดาย รยการเรียงลำดับก่อนหลังเหล่านี้ แม้จะ

ยุ่งยาก แต่ถ้าคุณทำทันทีที่ซื้อของใสตู้เย็น คุณจะเห็นว่มันไม่ได้ยุ่ง

ยาก และทำให้คุณสะดวกสบายขึ้นจริงๆ

“เขียนรายการของหมด ของที่ต้องซื้อ ติดไว้หนำตุง! “m

อาจไปซุปปอร์อาทิตย์ละครั้ง เพื่อซื้อของกินรองใช้ที่จำlนren

ของหมด ของที่ต้องซื้อ จะช่วยให้คุณประหยัดงิน ประหยัดca แS

ซื้อของมาในปริมาณที่เพียงพอกับความจำเป็นซื้อเท่ที่ช้งดเ

ซื้อใหม่ ไม่เสี่ยงกับการซื้อของมาหมกไว้ในตู้เย็นให้หมดอายุกระ

ไม่รู้ว่าอะไรขาดอะไรเกิน

“กำหนดวันทำความสะอาดตู้เย็นเดือนละครั้ง” อย่าคำต

ในตู้เย็น ที่มีอกาศเย็นสบาย จะเป็นที่ที่สะอาดปลอดภัย ตง

ข้าม มันกลับเป็นแหล่งรวมแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ มากมย

ที่ชื่นชอบความเย็น อยปล่อยให้ตู้เย็นของคุณ เป็นสุสานเก็บชาก

พืชชากสัตว์ เพราะสิ่งเหล่นั้น จะส่งผลต่อสุขภาพของคุณ กำหน

วันทำความสะอาดตู้เย็นเขียนแปะไว้หนตู้เย็นให้ชัดเจน เพื่อคุณจี

ได้เตรียมตัวเคลียร์พื้นที่ในตู้เย็น เพื่อความสะดวกในการทำความ

สะอาด

กินก็น่ากลัวเกินไป

“เขียนซื่ออาหารที่กินเหลือติดไว้ตามลำดับก่อนหลัง” เพื่อ

ยืองกันการลืม ว่คุณแซ่อะไรไว้ในตู้เย็นตั้งแต่วันไหน คุณจะไดีไม่

ลืมว่าควรกินมันให้หมดภายในวันนั้น หรือควรทิ้งถ้ามันค้างคืนนาน

กินไป ป้องกันการสะสมขยะอาหารไว้ในตู้เย็น จะทิ้งก็เสียดาย จะ

“ควรเขียนเมนูอาหารติดไว้หน้าตู้เย็นสัปดาห์ละครั้ง” ถ้าคุณ

ทำอาหารกินเองบ่อยๆ ในเวลาเร่งรีบหัวสมองอาจตีบตัน เพราะคิด

ไม่ออกว่าจะทำอะไรกินดีในตู้เย็นมีอะไรให้ทำอาหารได้บ้าง คุณควร

มีมนูอาหารประจำสัปดาห์ ติดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปสัปดาห์

ละรั้งนอกจกจะสะดวกและสนุกแล้ว คุณจะได้วางแผนทำอาหาร

ตามวัตถุดิบที่มีอยู่อย่างเหมาะสม

“อย่าเก็บอาหารขยะ ไร้ประโยชน์ไว้ในตู้เย็น” อย่างเช่น นำ

อัดลม ขนมขบเคี้ยว และของมึนเมาต่งๆ ถ้าคุณอยากกินของเหล่า

นี้ ควรซื้อในเวลาที่อยากกิน อยซื้อติดตู้เย็นเป็นกิจวัตร ส่วนใหญ่

ของพวกนี้ ถ้ไม่กินจนติด แต่กินตอนอยากเป็นครั้งๆ ไป พอกินไป

แล้วเราจะเบื่อไปอีกนาน

“น้ำรั่ว น้ำหยด อย่าปล่อยปละละเลย” เมื่อไหร่ที่เกิดน้ำ

รั่วน้ำหยด ต้องรีบแก้ปัญหาทันที อย่าปล่อยปละละเลย ผลัดวัน

ประกันพรุ่งเด็ดขาด เพราะน้ำทุกหยดที่รั่วออกไป คือเงินในกระเปิา

คุณ นอกจากสิ้นเปลืองแล้ว ห้องน้ำที่มีปัญหาเรื่องน้ำรั่ว จะสร้าง

ความทุกข์และความรำคาญใจให้คุณมากที่สุด ชนิดที่ว่ถามีน้ำรั่ว

ในห้องน้ำ คุณจะอารมณ์เสียทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ

“ราคำ คราบสกปรก อยให้หมักหมมในห้องน้ำ” ราดำ และ

คราบดำๆ เป็นของคู่กันกับห้องน้ำ ถ้ไม่อยากให้มันมาเยี่ยมเยือน

คุณต้องทำความสะอาดห้องน้ำอย่างต่ำอทิตย์ละครั้ง หลายคนอาจ

คิดว่ ถ้ต้องทำความสะอาดทุกห้อง ชีวิตนี้คงแห้งตาย วิธีง่ายๆ ใน

การรักษาความเตียนโล่งทุกพื้นที่นั่นก็คือ คุณต้องเหนื่อยจัดระเบียบ

ยกใหญ่สักครั้ง พอทุกอย่างเรียบร้อย ก็คอยระวังรายวัน ห้องน้ำก็

เช่นกัน ถ้าทุกครั้งที่คุณอาบน้ำ คุณทำความสะอาดนิดๆ หน่อยๆ

โดยไม่รอให้มันสกปรก คุณจะไม่เหนื่อยเลย กับห้องอื่นๆ ก็เช่นกัน

หลังสะสางแล้ว แค่คอยระวังอย่าสะสม ทำให้ติดเป็นนิสัย คุณจะ

ไม่เหนื่อยในการจัดเก็บอีกเลย

“ผ้าประดับในห้องน้ำสร้างความสดใส” ถ้ามันไม่เหลือปกว่า

แรง หผ้แขวนสั้นๆ มาแขวนไว้เป็นเครื่องประดับ ตรงที่แขวนผ้

ในห้องน้ำก็ดีนะ เวลาเพื่อนผู้ชายมาบ้านฉัน ทุกคนจะสงสัยว่า ผา

เล็กๆ เขียวๆ ที่แขวนไว้ในห้องน้ำ แขวนเอาไว้ทำไม ดูๆ ไปก็นรักดี

แต่เพื่อนผู้หญิงจะบอกว่า ผ้าสีสวยดี แขวนประดับไว้แบบนี้ เข้ากัน

กับสีสันในห้องน้ำ ใช้เช็ดมือก็ได้ แค่ผ้าเล็กๆ สีสวยๆ ผืนเดียว จะ

ทำให้ห้องน้ำของคุณ ดูละมุนละไมขึ้นทันที

“แสไฟในห้องน้ำ สื่อความรู้สึก” ถ้าเลือกได้ หรือถ้าไฟใน

ห้องน้ำคุณเสียมื่อไหร่ และต้องเลือกหลอดแบบใหม่มาเปลี่ยน เป็น

แสงไฟแบบเดย์ไลท์ (แสงสีส้มแบบแสงแดดกลางวัน) มาใช้แทน

แสงไฟสีขาวแบบแสงนีออน แม้จะไม่สว่างเท่า แต่แสงสีส้มจะสร้าง

ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยกว่ เป็นห้องน้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น

โลกส่วนตัวที่อบอุ่นอ่อนโยน จะช่วยให้คุณใจเย็น อารมณ์ดี และมี

ความสุขกับการใช้ห้องน้ำมากคว่แสงสีขาวที่แม้จะสว่างกว่า แต

ก็ไม่อบอุ่นเท่าที่ควร

A.

กำจัดกระดาษใกล้ตัว

ให้มากที่สุด

แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไป

ข้อมูลส่วนใหญ่ ถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล

แต่กระดาษจะยังคงอยู่คู่โลกไปอีกร้อยปีพันปี

แม้จะรกแต่สะดวกนี่คือความจริงของกระดาษ

ในขณะที่พื้นที่ของชีวิตคนสมัยนี้ กลับเล็กลงเรื่อยๆ

กระดาษจึงเป็นภัยคุกคามความเตียนโล่งเป็นอันดับหนึ่ง”

ดังนั้นในปฏิบัติกรเตียนโล่งขั้นต้น คุณต้องลุกขึ้นมา

กำจัดกระดาษใกล้ตัวออกไป ให้มากที่สุด

ถ้ามีขาเข้า ก็ต้องมีขาออก

เมื่อคุณตัดสินใจได้ว่า ข้อมูลที่ผ่านมือคุณเมื่อครู่ คุณจำเป็น

ต้องเก็บมันไว้ใช้ประโยชน์สักระยะหนึ่ง จงเก็บมันเข้าแฟ้มที่

เกี่ยวข้องทันที แต่สิ่งสำคัญก็คือ อยเอาแต่เก็บอย่างเดียว “ทันทีที่

คุณตัดสินใจเก็บอะไรกอย่างเขาแฟ้ม คุณต้องตัดสินใจทันทีเช่น

กัน ว่าคุณจะโยนอะไรออกจากแฟ้มไป”

หากคุณก็บกระดาษเพิ่มเข้ามา 1 แผ่น คุณต้องทิ้งกระดาษ

ในแฟ้ม 1 แผ่นช่นกัน เมื่อมีของใหม่เข้ามา ของเก่าต้องออกไป ไม

อย่างนั้นแฟ้มของคุณจะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลมากมาย ก่อนระเบิด

ออกมา กลายเป็นปีศาจกระดาษตามหลอกหลอนจนคุณแทบคลั่ง

อย่ใจอ่อนผ่อนปรนให้กับข้อมูลเก่าๆ ที่ล่อลวงให้คุณรู้สึก

เสียดาย และคิดว่เก็บเอาไว้ก่อน แค่แผ่นสองแผ่นคงไม่เป็นไร อย่า

ลืมว่า แค่คุณก็บกระดาษเข้าแฟ้มวันละ 1 แผ่น ในหนึ่งเดือน คณ

จะมีกระดษเพิ่มเข้ามาในชีวิตมากถึง 30 แผ่น ใน 1 ปีจะมีกี่แผ่น

ไม่อยากจะคิด จำไว้ให้ขึ้นใจ “ถ้ามีขาเข้าก็ต้องมีขาออก นี่คือ

กฎเหล็กของความเตียนโล่ง”

ข้อมูลที่จำเป็นในการโล๊ะหิ้งอีกอย่างก็คือ

ใบรับประกันสินค้าที่หมดอายุ และคู่มือการใช้

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุดแล้ว” บางคนซื้อตู้เย็นมานาน

หลายปีใช้จนพังจนเปลี่ยนตู้เย็นไป 3 ใบแล้ว ยังเก็บ

คู่มือการใช้ตู้เย็นใบแรกเอาไว้อยู่เลย ไม่เพียงแค่นั้นทั้ง

พัดลม ไมโครเวฟ วิทยุ โทรทัศน์ คู่มือเครื่องไฟฟ้าเครื่อง

แล้วเครื่องเล่า ใช้จนพังจนซื้อใหม่ไม่รู้กี่ครั้ง แต่ยังเก็บ

ใบรับประกัน และคู่มือเก่าๆ เอาไว้อยู่เลย ทั้งที่ข้อมูล

พวกนี้ไม่มีประโยชน์ เปลืองพื้นที่จัดเก็บ ควรทิ้งทันทีที่

เครื่องใช้ไฟฟ้ของคุณพัง หรือหมดวาระการใช้งาน

พออ่นจบให้ตัดก็บและทิ้งสวนที่เหลือทันที แล้วคุณจะมีพื้นที่ไว้

เก็บข้อมูลอย่างไม่สิ้นสุด หมดปัญหาเรื่องการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด

ลดจำนวนกระดาษรบตัวได้อย่างนทึ่ง “แม้จะช่างเก็บ แต่ชีวิต

ไม่ต้องเก็บทุกสิ่ง

ในอินเตอร์เน็ตมีทุกอย่าง

ในยุคนี้ ข้อมูลส่วนใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในรูปแบบ

ดิทัล โลกออนไลน์อยู่ในมือคุณ ยิ่งสมัยนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการ

อะไรในอินเตอร์เน็ตมีให้คุณทุกอย่าง ข้อมูลบางอย่างที่เผยแพร่ผ่าน

ผื่ แม้จะสำคัญ แต่ไม่จำเป็นต้องจัดเก็บอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะ

ต้องการอะไร เพียงปลายนิ้วสัมผัส คุณจะได้ทุกสิ่งจากโลกออนไลน์

ถ้าคุณต้องการช่างไฟฟ้า ช่างประปา บริษัทรับออกแบบ

กแต่งภายใน ข้อมูลสถานพยาบาล หรือแม้แต่คนเลี้ยงเด็ก ไม

ว่อะไรก็ตามที่คุณต้องการ “สมัยนี้ไม่มีอะไรที่กูเกิลบอกคุณไม่

ได้ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องตัดเก็บข้อมูลทุกอย่าง และไม่ต้อง

ปริ้นเอกสารใส่แฟ้มเกินความจำเป็น”

คุณจะยังคงเตียนโล่ง โปร่งสบาย”

C

โบชัวร์ แคตตาล็อก

อ่านแล้วทิ้งทันทีอย่ารีรอ

เวลาไปจ่ายค่าบริการต่างๆ หรือไปเดินตามห้างสรรพสินค้า

เรามักได้รับแจกโบชัวร์โฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ หลายคน

ติดนิสัยพอได้มาก็ยัดใส่กระเป้า ยัดใส่ถุงช้อปปิ้ง เอาไว้อ่านเวลา

ว่าง หรือเอากลับมาอ่านที่บ้าน เพื่อที่จะได้มีเวลาคิดและตัดสินใจ

ในสินค้และบริกรนั้นๆ นี่คือกระดาษตัวร้าย ที่นอกจากทำให้บ้าน

รกแล้ว ยังทำให้คุณเสียเงินอีกด้วย

เมื่อไหร่ที่คุณได้รับโบซัวร์หรือแคตตาล็อกใดๆ “ทันทีที่หยิบ

กระดาษ จงอนมันซะให้จบ แล้วตัดสินใจทันทีว่าคุณต้องใช้

มันหรือเปล่า” ถ้ไม่ใช้ ให้ทิ้งไปเลยทันที อยเก็บกลับมาให้เป็น

ภาระ แต่ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโปรโมชั่นโทรศัพท์ แล้วได้โบซัวรีโทร

ถูกพิเศษมา ค่อยเก็บกลับมาพิจารณาให้ละเอียด ว่าโปรฯไหนโดน

ใจ แล้วจัดการเรื่องโทรศัพท์คุณให้จบ และทิ้งโบชัวร์นั้นทันที

“ซองรายจ่ายรายเดือน”

มีวิธีง่ยๆ ในการจัดก็บกระตาษเหล่นี้ นั่นคือเก็บเป็นระบบด้วย

ไม่ว่าจะใบเสร็จจากการซื้อสิ้นค้าและบริการ สลิปเงิน หรือ

บิลเรียกเก็บค่อะไรก็ตาม ให้ใส่รวมไว้ในชองเดียว โดย เขียนหน้า

องตามรายจ่ายรายเดือนนั้นๆ อย่างเช่น “รายจ่ายเดือนมกราคม

2557″ พอหมดเดือนนั้นๆ ก็ปิดซองจัดเก็บในกล่องหรือลิ้นชักที่

เหมาะสม

ฉันใช้วิธีนี้มานาน 10 ปีแล้ว ช่วยลดภาระในการเก็บเอกสาร

ได้เยอะมาก เพราะใน 1 เดือน จะมีเอกสารแค่ 1 ซอง ในซองนั้น

‘ช้เก็บใบเสร็ดใช้จ่ายทั้งหมด และใน 1 ปี จะมีซองรายจ่ายแค่

12 ซอง ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อยมาก เวลาดูเอกสารย้อนหลังก็สะดวก

สบาย

อย่างเช่นถ้คุณถูกเรียกตรวจหลักฐาน ค่เคเบิ้ลทีวีย้อนหลัง

3 เดือนก็หยิบชองของเดือนนั้นๆ ออกมา และหาใบเสร็จค่าเคเบิ้ล

ได้ทันที ไม่ต้อไปร้อแฟ้มรายจ่ายแยกประเภทให้ปวดหัว “ไม่ว่า

ค่อะไร ของเดือนไหน ใบเสร็จทุกอย่างจะอยู่ในซองรายจ่าย

ประจำเดือนนั้นๆ ไม่มีวันหายไปไหน แค่เปิดชองซองเดียว

คุณจะค้นเจอทุกอย่าง”

ถ้าคุณมีบ้านหลังใหญ่ มีห้องว่างสำหรับทำห้องสมุด ก็ถือว่า

โคดีแต่ถ้ที่อยู่ของคุณ เป็นห้องเล็กๆ อย่างคอนโด ห้องเซ่า หนังสือ

สะสมจะเป็นตัวกินพื้นที่เตียนโล่งชั้นยอด จนไม่เหลือที่ว่างให้กับสิ่ง

ใดได้อีกดังนั้น”คุณต้องเสียสละพื้นที่จัดเก็บอื่น ๆ แล้วนำที่ว่าง

ส่วนนั้นมาประยุกต์ใช้ ให้เหมาะสมกับการเก็บหนังสือ”

อย่างเช่น ห้องเก็บของ ตู้เก็บของ พื้นที่บริเวณผนังด้านใด

ค้นหนึ่ในห้อง ดีไซน์แบบง่ายๆ เป็นชั้นแนบผนังบางๆ คุณต้อง

ทิ้งอย่างอื่ กี่ไม่จำเป็นไปทั้งหมด แบบไม่ต้องเผื่อว่าจะใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นเสื้ผ้าเก่ๆ ครื่องไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน ยิ่งพื้นที่จำกัด

ยิ่งต้องเลือกเก็บ และเลือกทิ้งให้มากขึ้น คุณจึงจะมีพื้นที่สำหรับ

หนังสือ และเหลือพื้นที่เตียนโล่งไว้เพื่อชีวิต นั่นแหละคือคำตอบ

“กรใช้ชีวิต ไม่ใช่เรื่องงย ไม่ว่าคุณ ฉัน หรือใครก็ตาม

เราทุกคน ไม่มีวันได้ ในทุกสิ่งที่ต้องการ เราต่างต้องได้และ

เสีย เพื่อแลกเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา คุณจึงไม่สามารถเก็บทุก

สิทุกอย่าง ที่คุณต้องการเก็บไว้ได้ทั้งหมด เราต่างทำได้เพียง

เลือกเก็บในสิ่งที่ต้องกรมากที่สุดเท่นั้น”

5.

เคล็ดลับ

กำจัดความเสียดาย

เพื่อชีวิตที่เตียนโล่ง

โยนทุกอย่างลงไปในถุงดำ

แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เป็นขยะ

ตอนฉันซื้อคอนโดใหม่ ซึ่งห้องใหม่จะเล็กลงจากห้องเดิมถึง

หนึ่งเทตัว พื้นที่ของชีวิตจะหายไปครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่า “ฉัน

ต้องทิ้งสิ่งของในห้องเดิมไปครึ่งหนึ่ง! ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่มีที่เตียน

โล่งเหลืออยู่เลย” ทันทีที่รื้อของออกมา ผลที่ได้คือนั่นก็เสียดาย นี่ก็

เสียดาย นั่งคิดนอนคิดอยู่สามวันสามคืน ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่า

จะทิ้งอะไร จะเก็บอะไร

สุดท้าย ฉันจึงถามตัวเองว่า ทำไมตัดใจทิ้งอะไรไม่ได้สักอย่าง

คำตอบที่ได้ก็คือ พอได้เห็นของแต่ละอย่าง ที่ได้หยิบขึ้นมาดู ความ

ทรจำมันจะเหนี่ยวรั้ง ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นข้าวของไร้ประโยชน์

แม้แต่การ์ดวันเกิด หรือตุ๊กตาหมีเน่าๆ ก็ทิ้งไม่ลง

พอรู้ปัญหา ฉันเลยไปซื้อถุงดำขนาดใหญ่แบบหนาพิเศษมา

หนึ่งแพ็ศใหญ่ และโยนทุกอย่างลงไปในถุงดำนั้น แล้วปิดปากถุง

ด้วยกปกาวเหนียวๆ ตั้งทิ้งไว้สัพัก ระหว่างที่เก็บของอื่นๆ เราจะ

เลินไปเรื่อยๆ และลืมไปอย่างช้ๆ ว่ในถุงดำใบใหญ่นั้นเราทิ้ง

ถุงดำอย่างถาวร ถ้พันเทปกาวไปแล้วแกะออก นื้อถุงจะติดเทป

ออกมา ทำให้ถุงขาด เลอะเทอะยุ่งยาก จนคุณไม่อยากแก

ออก ช่วยให้ลืมและทิ้งของในถุงได้ง่ายขึ้น

กลั้นใจทิ้งซะ

แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ขึ้

ของบางอย่าง ที่เป็นความทรงจำแสนดี แต่มันจนใจที่จะหา

ที่เก็บจริงๆ ของพวกนี้ บางทีถุงดำก็ช่วยคุณไม่ได้ “วิธีจัดการขั้นเด็ด

ขาดก็คือกลั้นใจโยนลงถุงดำใบเล็กสักใบ แล้วรีบเอาไปทิ้งที่ถังขยะ

ใบใหญ่นอกบ้านทันที” แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ต่อให้คุณเสียดายแค่ไหน แต่ของที่ทิ้งไปไกลถึงถังขยะส่วน

กลางใบใหญ่ด้านนอกแล้ว เพียงขมคืน มันจะถูกกำจัดออกไปอย่าง

รดเร็ ช่วยให้คุณตัดใจได้ง่ยขึ้น พราะต่อให้อยากเก็บคืนมาสัก

แค่ไหน ก็ทำไม่ได้ รถขยะเทศบาลได้ขนมันไปไกลจากชีวิตคุณแล้ว

แม้ว่าเสื้อผ้าของคุณจะสะอาดและคุณภาพดี ก็ไม่ได้

หมายความว่การส่งต่อจะไม่นเกลียด หากไปบริจาคให้คนรู้จัก

ด้วยความหวังดี คุณอาจโดนตั้งแง่รังเกียจ หรืออีกฝ่ายอาจคิดว่า

คุณดูถูกเขา เอาของเหลือใช้มาให้ แบบนี้ดูถูกกันชัดๆ เรื่องนี้เป็น

รื่องละเอียดอ่อน ถ้าอีกฝ่ายคิดในแง่ลบ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ

“ถ้ากรบริจด ทำให้ชีวิตคุณยุ่งยาก เสียเงินทอง จงตัดใจทิ้ง

ไปซะ แล้วคุณจะชนะทุกสิ่ง!”

ของที่มีคุณค่า

ส่งต่อไปให้คนอื่น

การส่งต่อสิ่งของให้คนอื่น ต้องให้อย่างรู้กาลเทศะ จะทำได้

เพาะสิ่งของที่มีคุณค่าคู่ควรสำหรับผู้รับ และคุณอยากให้เขาด้วย

น้ำใจอย่งแท้จริง เป็นของที่เกิดประโยชน์กับผู้รับจริงๆ ไม่ใช่ส่งต่อ

ให้เขาเพราะต้องการหาที่ทิ้งขยะ

เหมือนที่บอกแต่แรกว่ การให้เสื้อผ้ากับคนรู้จัก เป็นการให้ที่

หมิ่นเหม่ไม่ควรเสี่ยงส่งต่อ สมัยนี้เสื้อผ้ามีขายมากมาย ทั้งสวยงาม

และไม่แพง จึงไม่ค่อยมีใครอยากได้เสื้อผ้าเก่ๆ ของคนอื่น 

อย่าให้ตู้เสื้อผ้า

กลายเป็นถังขยะไฮโซ”

เสื้อผ้าเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิตเราทุกคน ความหลากหลาย

ของเครื่องแต่งกาย กลเทศะ และตัวตนที่เป็นไปในแต่ละวันของ

ราลัวนบีบบังคับให้เรา มีตู้เสื้อผ้ที่เต็มลัน บวมเบ่งจนแทบระเบิด

ทั้งๆ ที่ควรจริงแล้ว เรต่างมีชุดก่งที่หยิบมาใส่ซ้ำซากอยู่ไม่กี่ชุด

นอกนั้นเป็นเสื้อผ้ที่อาจซื้อมาเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซื้อเพราะ

ถูกซื้อเพราะคิดว่สักวันจะผอมและใส่มันได้ ยังมีเสื้อผ้าใสออกงาน

เพาะกิแบบใสครั้งเดียวก็แขวนทิ้งไว้หลายปี อย่างพวกชุดไปงาน

เลี้ยงกลางคืนชุดปาร์ตี้แฟนซีของที่ทำงาน เสื้อผ้าพวกนี้เปลืองพื้นที่

จัดเก็บในตู้ และเป็นขยะไฮโซ ที่คุณไม่กล้าทิ้งหรือยกให้คนอื่น เลย

ต้องแขวนมันไว้อย่างนั้น

ถ้เลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องรู้จักจัดระเบียบ กับเสื้อผ้ามากมายในตู้

ที่มีพื้นที่จำกัด ทุกชุดในตู้ล้วนจำเป็นในการใช้ชีวิต คุณต้องจัดสรร

“กรจัดเก็บเสื้อผ้อย่างมีแบบแผน ตู้ของคุณจะเตียนโล่ง

ทำให้คุณสนุกและมีความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งตัวอย่าง

ไม่รู้เบื่อ”

กำจัดเสื้อผ้าเก่า ย้วย ขาด

ซ่อมไปก็ไม่คุ้ม

หลายคนคงเคยเจอเรื่องลำบากใจ อย่างเสื้อผ้าชุดเก่งขาด

เป็นเล็กๆ ยางยืดเสื่อมจนย้วย สีซีด สีตกเลอะเทอะ แต่สภาพทั่วไป

ยังดีแน่นอ เสื้อผ้าพวกนี้ใส่ไม่ได้ ซ่อมไปก็ไม่คุ้ม เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้า

หมดสภาพการใช้งน ไห้โยนทิ้งทันที “อย่าโยนไว้ในตู้ด้วยความ

เสียดาย พื้นที่ตู้เสื้อผ้า มีอยู่จำกัด คุณควรเลือกเก็บแค่เสื้อผ้ที่มี

ประใยชน์ ช้งานได้จริง แล้วทุกครั้งที่เปิดตู้เสื้อผ้า คุณจะสนุกและ

มีวิตชีว ใช้ประโยชน์จากเสื้อผ้าทุกชุดในตู้อย่างคุ้มค่า”

ไม่ว่าคุณจะรักชุดเก่งมากแค่ไหน ไม่ว่าเสื้อผ้าตัวนั้นจะทำให้

คุณโชคดีมาสักเห่ไหร่ แต่ทุกสิ่งในโลกนีล้วนต้องเสื่อมสลาย ถ้า

มันก ย้วย เสื่อมสภาพ คุณต้องยอมรับและเข้าใจ โยนมันทิ้งไป

อย่ได้ลัง “เสื้อผ้ที่ใส่ไม่ได้ หรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ เท่ากับไร้

ประโยชน์ ต้องกำจัดทิ้ง นี่คือกฎที่ไม่มีข้อยกเว้น”

ถ้าคิดดูดีๆ แล้วลมแทบใส่ จึงไม่แปลกเลย ว่าทำไมคนสมัย

นี้จึงเก็บเงินเก็บทองเพื่อตั้งตัวได้ยาก

หากคุณต้องออกงานเฉพาะกิจ ไม่ว่าจะงานแฟนซี งานปาร์ตี้

งนบวช งานแต่งงานใดๆ อยยึดติดกับภาพลวงตา แก้ปัญหาค่า

ห้จ่ยฟุมฟือยส่วนนี้ ด้วยการช่าเครื่องแต่งตัวมาตรฐานกลางๆ

ม่ต้องแพง ใสแล้วเหมาะสม ถ้ซื้อเสื้อผ้าใหม่เพื่อออกงาน ตอ

ให้ใช้ของธรมดารคาถูก ก็ยังต้องใช้เงินขั้นต่ำหลักพัน แต่ถ้าเช่า

คุณจะใช้เงินเพียงหลักร้อย

สมัยนี้มีให้เซ่าเป็นเซ็ท ทั้งเสื้อผ้า กระเป้า รองเท้า เลือก

เช่ได้คบชุด ในรดาย่อมเยา เสร็จแล้วส่งคืนร้าน ประหยัด

ทั้งงินและพื้นที่จัดเก็บ” ลองลดความยุ่งยากมากเรื่องในชีวิต ด้วย

กรหันมาใช้เสื้อผ้เซ่เป็นครั้งคราว อาจทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นกว่าเดิม

มีงินทองเหลือใช้เหลือเก็บมากขึ้น

PART2

น้อย คืจมาก

อิสรภาพ

ทางการเงิน

กระเป๋าสตางค์ สร้างชีวิต ; 104

2. รู้ทันเกมการตลาด ; 121

3. งินสดสร้างอนาคต ; 134

4. หลักทรัพย์ที่สอดคล้องกับวันวัย

อบอุ่นใจไปจนถึงวัยเกษียณ ; 147

กระเป๋าสตางค์

สร้างชีวิต

“แม้ว่าเงินจะซื้อไม่ได้ทุกอย่าง

แต่เราจะไม่มีอะไรสักอย่าง ถ้าไม่มีเงิน

กระเป้าสตางค์คือบ้านของเงินตรา

ที่จะนำพาชีวิตคุณไปสู่ความมั่นคง

คุณจะห่างไกลความยากจน

ถ้ารู้จักใส่ใจกระเป้าสตางค์ของตัวเอง”

ใส่ใจกระเป๋าสตางค์

สร้างอำนาจเหนือเงิน”

กระเป้เงิน คือที่อยู่ของเงิน เป็นศูนย์รวมความอบอุ่นมั่นคง

ของชีวิต ไม่ใช่แค่แหล่งพักเงินชั่วคราว ทำหน้าที่เพียงรับเงินเข้ามา

แล้วจ่ายออก หลายคนอาจคิดว่า เงินส่วนใหญ่เก็บไว้ในธนาคาร

กระเป้เงินเป็นเพียงทางผ่าน ที่บางครั้งก็ทำให้เราอารมณ์เสีย นั่น

คือเวลาที่เผลอหยิบงินออกมากเกินไป จนกระเป้าแห้ง

เมื่อไหร่ที่กระเป้าเงินคุณแห้ง คุณจะแก้ปัญหาด้วยการ

รูดบัตรเครดิต หรืไม่ก็ดินไปกดเงินสดออกจากเอทีเอ็ม เงิน

ออมของคุณ เงินสดของคุณ เงินในอนาคตของคุณ ไหลออก

อย่างช้ๆ แต่หนี้สินเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว” คนที่ปล่อยปละละเลย

กระเปสตางค์จึงมีปัญหาทางการงินเสมอไม่ว่าตอนนี้คุณจะอายุ

ห่ไหร่ มีงินมากน้อยแค่ไหน ยังไม่สายเกินไป ที่จะหันมาใส่ใจ

กระเป้าสตางค์ของตัวเอง

เลือกกระเป้าสตางค

ให้เหมาะกับตัวเอง

งิชต่ไพราะใจรักคุณจะไม่มีที่เก็บเศษเหรียญ เอาไป

ตนกระนำสื้อกะปกงเกง หรือกระเป้าถือ สุดท้าย

ก็ใช้ไปบ้างหายไปบ้าง”

ท่ามกลางความแตกต่างของการใช้ชีวิต คนอยคน ก

แบบ ร้อยวิถีชีวิต แต่ละคนจึงต้องการกระเป้าสตางค์ที่เหมาะ

กับตัวเองแตกต่างกันไป “การเลือกบ้านที่อบอุ่นให้กับงินขอ

จะเลือกเพียงเพราะความชอบอย่างเดียวไม่ได้”

“บางครั้งกระเป้าสตางค์ แบบที่คุณชอบมาก อาจไม่

เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณ ถ้ายังฝืนใช้ด้วยใจรักอาจทำให้

เกิดหายนะทางการเงินได้” อย่างเช่น ถ้าคุณชอบกระเป้าสตางค์

ใบเล็กๆ หรูหร ไฮโซ ใส่งินได้แต่แบงค์กับบัตรต่างๆ อีกเล็กน้อย

แตวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ ต้องขึ้นรถสาธารณะ ต้องหยอดเหรียญ

ซื้อบัตรคยสารรถไฟฟ ทำให้ได้เศษเหรียญเป็นเงินทอนมากมาย

แถยังมีบัตรต่งๆ นับสิบใบไม่ว่าจะเป็น เอทีเอ็ม บัตรเครดิต เดบิต

บัตรสมาชิกวนลด บัตรสะสมแต้ม ฯลฯ แล้วคุณคิดว่า กระเป้ใบ

จิ๋วไงนรันนั้นจะรัมือกับเรื่องใหญ่โตจุกจิกแบบนี้ได้อย่างไร

ถ้คุณนชกระป้สตางค์ ที่ไม่เหมาะกับตัวเอง 

นอกจากนี้บัตรต่งๆ ก็จะไม่มีที่เก็บอย่างเหมาะสม สุดท้าย

ะยัดๆ เอาไว้ในช่องเดียว ทำให้เสี่ยงกับการหล่นหาย หรือ

ตญหด้วยการเลิกพกบัตรเหล่นั้น คุณจะใช้ประโยชน์จากบัตร

นดงๆ ได้ไม่ต็มที่ พราะวิถีชีวิตที่คุณเป็นยุ่งยากเยอะแยะ

กระเปสตางค์เล็กๆ บางๆ จึงรับมือไม่ไหว

กระปสตางค์เล็กๆ แบบหรูหรา เก็บได้แต่แบงค์กับบัตรไม่กี่

มนั้นจะเหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัว และไลฟ์สไตล์จ่ายเงินผ่านบัตร

เครดิต หรืบัตรเดบิต แต่ละวันไม่ยุ่งกับเศษสตางค์ เพราะขับรถไป

ทำงาน เติมน้ำมันผ่านบัตรเครดิตไบเดียว ก็ใช้ได้ครบวงจร

เวลาจ่ายค่าทางด่วน หรือค่าอะไรด้วยเงินสด และมีเศษเงิน

เหรีญทอนกลับมา เขาก็จะเอใส่ไว้ในช่องเก็บเหรียญในรถยนต์

ไม่มีตกหล่นสูญหาย กระเปสตางค์ใบเล็กๆ คล่องตัวจึงตอบโจทย์

ชีวิตได้อย่างเหมาะสม

“ถ้าคุณอยากโลดแล่น เบาสบาย ไร้ปัญหาทางการเงินใน

อนาคต จงเลือกกระเป้าสตางค์ ที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วคุณ

จะรู้ว่ กระเปสตางค์สมารถลดปัญหาทางการเงินในระยะ

ยาวได้จริงๆ จงเลือกใช้ในสิ่งที่เหมาะสม สอดคล้องสมดุล

ชีวิตคุณจะไปโลด อย่างแน่นอน”

แจ้ดระเบียบงินในกระเป้า

เมื่อได้กระเป้าที่ถูกใจ และเหมาะสมกับตัวเองแล้ว คุณรัด

จัดระเบียบกระเป้าสตางค์อย่างใส่ใจ แม้ว่ากระเป้าสตางค์

แนสนธย กี่มีเพียงคุณท่นั้นที่เปิดข้าเปิดออก แต่มันปิปภก

ที่สำคัญของคุณ จึงต้องจัดระเบียบให้เป็นระบบ เพื่อความสะตn

ในกรจัดเก็บ หยิบใช้ และป้องกันความผิดพลาด ที่อาจทำให้สีย

เงินไปอย่างไม่ควรจะเป็น

ใช้กระเป้าสตางค์ที่มีช่องเก็บแบงค์ 2 ช่อง

ทำไมต้อง 2 ช่อง คำตอบก็คือ ประเทศไทยเรา มีรูปแบบของ

งินที่หลากหลาย คือมีทั้งเหรียญ แบงค์ใหญ่ แบงค์ย่อย แค่แบงค์

ก็มีใหญ่เล็กหลากหลายมูลคำ ดังนั้น ช่องเก็บแบงค์ส่วนหน้า ควร

ก็บแบค์ย่อย อย่างแบงค์ยี่สิบกับแบงค์ห้าสิบที่ต้องใช้บ่อย และ

งลาจำยออกไป มักได้งินทอนทั้งแบงค์และเหรียญต่างๆ กลับมา

ซ่องเก็บแบงค์สวนหลัง ที่ไม่ค่อยได้หยิบใช้เท่าไหร่ ควรเอา

ไว้เก็บแบงค์หญ่อย่งชน แบงคีร้อย แบงค์ห้ร้อย ไปจนถึงแบงค์

พัยงกันไปตามลำดับพราะแบงค์เหล่สำ ๑ ๑ม๔ |

อย่างมีแบบแผน

ไม่มีแบงค์ย่อยแล้ว

ถ้าซ่องเก็บแบงค์ มีเพียง 1 ช่อง แม้คุณจะเรียงเงินตาม

ดับมูลค่าจากน้อยไปมาก แต่ว่าเงินก็อยู่รวมกันในช่องเดิ

สที่คุณจะหยิบผิดพลาด จึงเป็นไปได้สูง และถ้ามันผิด

พลาดขึ้นมา คุณจะเสียเงินไปเปล่าๆ อย่างน่าเจ็บใจ”

เพื่อนฉันคนหนึ่งชอบใช้กระเป้าสตางค์ใบเล็กมีช่องเก็บแบงค์

แค่ ช่อง ทั้งแบงค์ใหญ่แบงค์ย่อยอยู่รวมกันในช่องเดียว วันหนึ่ง

นั่งท็กซี่กลับบ้านตอนดึก พอถึงบ้านมิเตอร์แท็กซี่โชว์ว่าค่าโดยสาร

100 บาท จึงหยิบแบงค์ร้อยส่งให้คนขับรถ แล้วรีบเข้าบ้านทันที

“พอตอนเช้า เปิดกระเป้าสตางค์จ่ายค่ารถเมล์จึงเห็นว่า

แบงค์พันหายไป! คิดแล้วคิดอีกก็มั่นใจว่าไม่ใช่ซื้ออะไรแน่นอน

ใช่เลย! หยิบผิดจ่ยค่าแท็กซี่ไปเมื่อคืน”มินล่ะ แท็กซี่รีบขับออก

ไปอย่างรวดเร็ว ค่รถ 100 บาท เพื่อนฉันจ่ายไป 1000 บาท เพราะ

ในรถมืดมาก และตัวเองก็รีบมากด้วย

ความจริงก่อนหน้านี้ หตุการณ์หยิบแบงค์ผิดเกิดขึ้นกับชีวิต

เพื่อนคนนี้บ่อยครั้ง แต่เธอยังไม่เอะใจ ไม่ใส่ใจมองปัญหา เพราะ

เห็นว่าเงินแค่ยี่สิบสามสิบบาท ไม่เป็นไร (แต่หลายครั้งมันก็หลาย

ร้อยบทนะ) จนมาเจอความผิดพลาดครั้งนี้ จึงได้ฉุกคิด แบงค์พัน

ใบนั้น คืองินที่ต้องใช้กินอยู่ไปจนถึงสิ้นเดือน

พอเกิดเรื่องหยิบเงินผิดจ่ายค่าแท็กซึ่ ทำให้เสียงินพาา

900บาทอย่างน่เจ็บใจ ทำให้ต้องหาหยิบยืมงินจากเพื่อนวนา

เธอจึงยอมเปลี่ยนกระเป้าสตางค์ มาใช้แบบที่เหมาะสมกับตั

จัดเรียงแบงค์ตามลำดับ

แม้ว่ากระเปสตางค์ของคุณจะมีช่องแยกแบงค์ไว้ 2 ชอ

แล้ว คุณก็ต้องจัดเรียงแบงค์ตามลำดับเล็กใหญ่ และจัดเรียงตาม

ทิศทางที่เหมือนกัน อย่างเช่น เอาด้านหน้าออก เหมือนกันทุกแบงค์

เลได้งินทอนจกกรซื้อสินค้าและบริการใดๆ “ไม่ว่าคุณจะรีบ

ร้อนแค่ไหน ก่อนเก็บงินใส่กระเป้า จงเรียงเงินให้เป็นระเบียบ

แล้วจัดเก็บอย่างเป็นระบบ”

วลาหยิบใช้จะได้หยิบได้อย่างสะดวก ไม่ผิดพลาด และมีสติ

นทครั้งที่หยิบงินช้ออกกระบำสตางค์ “การจัดเรียงแบงค์ตาม

ลำดับอนหล้ จะวยป้องกันการหยิบงินจ่ายออกไปผิด” เพราะ

งินจะรียงตามลำตับมูลคำ จากแบงค์เล็กไปแบงค์ใหญ่ในช่องใส่

อย่างเป็นะบบชัดจนให้คุณหยิบใช้ได้อย่างถูกต้อง

วัดระเบียบบัตรต่างๆ อย่างเป็นระบบ

บัตรต่งๆ ที่อยู่ในกระเปสตางค์ควรจัดระเบียบให้เป็นระบบ

ผ่คือบัตรบางประมห ราไม่ได้ใช้ทุกวัน อย่างบัตรสวนลดเครื่อง

ก็งคาท์ตอร์แบรนด์ ที่คุณใช้ปีละครั้ง หรือบัตรสะสมแต้มร้าน

หรชื่ดังที่ไปกินแค่เดือนละครั้ง ซึ่งบัตรพวกนี้ควรอยู่ในกระเป้า

บัรดยเฉพาะ ที่คุณอาจพักไว้ที่บ้าน ไว้ในรถ หรือในกระเป๊ถือ

นานๆ หยิบมาใช้ ไม่สร้างภาระ

กระเป้าสตางค์เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของงินตรา ที่มีพื้นที่

จำกัด นอกจากงินแล้ว บัตรต่างๆ ควรมีอยู่ในกระเป้าสตางค์เท่าที่

จำเป็นเท่นั้น อย่างบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจำตัวประชาชน

หรือใบขับขี่ เป็นต้น “กระเป้าสตางค์ คือที่อยู่ของเงิน เงินต้อง

เป็นใหญ่ จงเลือกสรรแต่บัตรที่จำเป็นและมีประโยชน์ที่สุด

เพื่อพื้นที่เตียนโล่งในกระเป้าสตางค์สำหรับเก็บเงินเท่านั้น”

กระเป้าสตางค

ต้องมีช่องเก็บเหรียญที่แข็งแรง

เหรียญหรือเศษสตางค์ สามารถพลิกฐานะคนราให้แต

ด้อย่างน่าอัศจรรย์ คนบางคนละเลยเศษสตางค์ พอได้มาบ

สูงบาท ก็โยนไปตรงนั้นตรงนี้ แต่คุณรู้ไหมว่า งินทอนที่คุณไรม

จกกรซื้อสินค้และบริกรต่งๆ นั้น ในแต่ละวัน ถ้าเอาเหรียญ

เหล่านั้นมารวมกัน คุณจะมีเหรียญผ่านมือวันละหลายสิบบาท ป

จนถึงหลักร้อยบาทเลยทีเดียว

ดังนั้นช่องเก็บเหรียญที่แข็งแรง เป็นสิ่งจำเป็น เพราะถ้าคุณ

ได้เหรียญมา คุณจะมีที่เก็บ พอมันเยอะคุณก็หยิบไปใช้ ไม่ต้องแตก

แบงศ์ย่อยแบงค์ใหญ่ งินจะอยู่ในกระเป้านานขึ้น เยอะขึ้นด้วย

ถ้ช่องเก็บหรียญไม่แข็งแรง ศษเงินของคุณจะหล่นหายได้อย่าง

งำยดาย” โดยเฉพาะเหรียญเล็กๆ อย่างเหรียญบาท เหรียญห้าสิบ

สตางค์และหรียญยี่สิบห้สตางค์”แม้มีมูลค่น้อยนิดที่หล่นหย

แต่เมื่อมันหยรวมกันบ่อยๆ ทีละเล็กละน้อยทุกวัน ก็จะกลาย

เป็นงินจำนวนมาก จนทำให้คุณกลายเป็นยาจกได้”

อย่าใช้กระเป้าสตางค์

เก่า เน่า ขาด อัปลักษณ์

“ถ้บ้านคุณรก น่หนอน ไม่น่อยู่ คุณก็ไม่อยากอยู่บ้าน

ขหม เงินของคุณก็ไม่ต่างกัน” บางคนชอบใส่กระเป้าสตางศ์ไว้

ในกระปกางเกง แล้วก็นั่งทับ นอนทับ จนเสียรูปเสียทรง บางคน

ปล่อยให้กระเป้าเปียกขึ้น เปียกน้ำ ตกน้ำก็ไม่ใส่ใจ ใช้มันไปจนแห้ง

จนปื่อย “ถกระเป้าสตางค์ของคุณ เน่หนอน ก็เท่ากับบ้านของเงิน

ตรเหนอนผุพัง ความมั่งคั่ง มั่นคง จะไม่มีวันถือกำเนิดขึ้นได้”

กระเป้าใส่เงิน ไม่จำเป็นต้องหรูหรา ราคาแพง หรือเป็นของ

แบรนด์เนมชื่อดัง แต่ต้องสะอาด มีระเบียบวินัย น่อยู่น่าใช้ มีกลิ่นที่

ดีนั่นคือกลิ่นงินตรา แล้วงินของคุณจะอบอุ่นปลอดภัย อย่าเสียดาย

ถ้ากระเป้าสตางค์ของคุณเริ่มเก่า ขาด ไม่น่ามอง

“คนที่กระเป้าสตางค์เรียบร้อยดูดีตลอดเวลา ไม่ใช่แค่

บอกให้รู้ว่าเป็นคนละเอียดรอบคอบ แต่ยังแสดงออกให้เห็น

ถึงความใส่ใจในเงินทอง อนาคตไม่ลำบากอย่างแน่นอน”

ต่อย่าพกงินเต็มกระเป้า

และอย่าใช้งินจนหมดกระเป้า

“ถ้าคุณพกเงินเต็มกระเป้า คุณจะรู้สึกว่าตัวเองเป็น

นฟังดูดีใช่ไหม ถึงจะฟังดูดี แต่ความจริงมันไม่ดีเลย” ถ้

พกงินมากเกินไป ความรู้สึกป้จะกระตุ้นให้อยากซื้อ เพราะรู้กว่

มีอำนาจมีพลังสมารถซื้อได้ มีงินเต็มกระเป้า แล้วคุณจะจ่ายเงิน

มากมายไปกับข้าวของไร้สระ กว่าจะรู้ตัวก็กระเป้าแบนแฟนทิ้ง!

คุณควรพกงินสดติดกระเป้าสตางค์ไว้ประมาณ 3 เท่าของค่า

ใช้จ่ายตายตัวรายวัน อย่างเช่น คุณใช้งินวันละ 300 บาท เป็นกิจวัตร

ประจำวันไม่นัคใช้จ่ายแทรกซ้อนต่างๆ คุณควรพกเงินสดไว้ใน

กระป้ตางค์ 900 บาท เมื่อใช้ไปจนเหลือติดกระเป้า 300 บาท

สุดท้าย ก็เติมงินลงไปใหม่ให้เต็ม 900 บาท

ไม่พกงินมากกินพอดีในแต่ละวัน และไม่ลืมตัวใช้เงินจนกระเป้า

น้ำคอยดูแลปริมาณงินสตในกระเป้อย่งสม่ำเสมอ คุณจะ

แหก! ก็ยังไม่แคร๊อนาคต

งินหมดเลี้ยงกระเป้ แลคุณกิดกระหายน้ำ ร่งกายขาดน้ำจน

ไราณสนไว”ย่ให้งินจนหมดกระเป้า เพราะถ้าคุณใช้

ใกล้จะขาดใตายแม้แต่งิน 10 บาทจะซื้อน้ำกิน

 แม้แต่งิน 1 บาท หยอดตู้โทรศัพทีไปขอ

วามช่วยเหลือใครสักคน ก็ยังไม่มี เป็นชีวิตที่แย่สุด

“การดูแลปริมาณเงินในกระเป้าไม่ให้มากไปหรือน้อ

ป คือความใส่ใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง คุณจะรู้ว่าเงินทอง เข้าอ

มือ วันละเท่าไหร่ แต่ละวันใช้ไปกับอะไรบ้าง สถาน

ทางการเงิน ในปัจจุบันเป็นอย่างไร”

กระเป้าสตางค์มีไว้เก็บสตางค

จำเอไว้ว่ากระเป้าสตางค์ มีไว้เก็บสตางค์เท่านั้น อย่าเก็บ

ขยะไว้ในกระเป้าสตางค์เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นใบเสร็จ สลิปบัตร

เครดิต สลิปเอที่เอ็ม แม้ว่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ แต่คุณควรเก็บ

ไว้เพียงชั่วคราว พอกลับถึงบ้านให้รีบเอาออกไปเก็บในที่ที่ควรเก็บ

อย่างเร็ว และต้องทำให้เป็นนิสัยอย่าเก็บเอาไว้ข้ามคืน เพราะคุณจะ

สะสมข้ไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่จะรู้ตัวในกระเป้าก็มีแต่เศษกระดาษ

ไม่มีเงินเหลืออยู่เลย

“ถ้าเก็บทุกสิ่งใส่ลงไป กระเป้าสตางค์ของคุณจะกลาย

เป็นที่ทิ้งขยะ ชีวิตของคุณจะเน่หนอนหมือนขยะ เพราะ

เงินของคุณจะหนีไปจากคุณทันที ลองคิดดูสิว ถ้ามีใครเอา

ขยะมาโยนทิ้งในบ้านคุณ คุณจะอยู่ในบ้านได้อย่างมีความ

สุขหรือเปล่า”

เลิกบ่นเลิกจน?

วลาซื้อของแพงที่จำเป็นต้องใช้ ซื้อข้าวสาร อาหารแร้

หออหารอร่อยราคาแพง หากอยากซื้อ อยากกิน อยากให้ราง่

ชีวิตนานๆ ครั้ง ก็ทำไป “ถ้าจ่ายไปแล้วอย่บ่น อยโวยวย

อย่าเสียดายในสิ่งที่ย้อนกลับมาไม่ได้ “

อย่าบ่นเรื่องความยากจน อย่าด่าเรื่องราคาข้าวของเครื่องไ

ที่แพงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่ใจหาย แต่จงหาเงิน และใช้เงินด้วยใจ

ปล่อยวาง ยอมรับความเป็นไปในโลกนี้อย่างเข้าใจ “กลไกในทร

เพิ่มลดทางมูลค่ของงินตรา เราไม่อาจกำหนดได้ มันจะเป็น

ไปตมกลไกรรมชติของโลก เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม

บ่นไปก็มีแต่จะทำให้จิตใจเศร้าหมอง

“เลิกบ่น เลิกจน และหันมองความเป็นจริงของชีวิตอย่าง

ยอมรับและเข้าใจ”

“เก็บเงินด้วยมือขวา

จ่ายงินด้วยมือซ้าย

บางคนมีความเชื่อว่า เวลาเอาเงินใส่กระเป้าให้ใช้มือขวา

แต่เวลาจ่ายออกให้ใช้มือซ้าย แต่ความจริงก็คือ “เราควรใช้มือที่

นัดเก็บเงินใส่กระเป้า และใช้มือข้างที่เราไม่ถนัด จ่ายเงิน

ออกจากกระเป้า เป็นกุศโลบาย ที่ช่วยให้เงินเข้าง่ายออกยาก’

เพราะระหว่างที่เราใช้มือข้างที่ฤนัดเก็บงินเช้ากระเป้า เราจะเก็บ

อย่างรวดเร็ว งินจะอุ่นอยู่ในกระเป้อย่างรวดเร็ว เงินจึงเพิ่มพูนได้

อย่างง่ายดาย

ถ้าเราใช้มือข้างที่ไม่ถนัดหยิบงินออกจากกระเป้า ความที่ไม่

ถนัด จะทำให้หยิบไม่สะดวก ขณะหยิบเงินออกมาจ่าย เราจะหยิบ

ช้ หยิบยาก ระหว่างนั้นจะได้มีเวลาคิดทบทวนตัวเอง ว่าควรจะซื้อ

ดีไหม ควรจะจ่ายเห่ไหร่ มีระยะเวลาคิดก่อนใช้ ทำให้เงินออกจาก

กระเป้ายากขึ้น เงินจึงอยู่กับเรานานขึ้น

“หยิบงินออกจากกระเป้า

ถมันต้องจ่ายก็จ่ยไป เราทุกคนต่างมีรายจ่ายจำเป็นที่เ

ขาจหลีกเลี่ยงได้ แม้จะมีภาระเต็มลัน ถ้ามันจำเป็นก็ต้องจำยป

อย่ไปคิดมาก จนจะจ่ายอะไรแต่ละที่ จ่ายด้วยมือที่สั่นเทา จ่ายป

แล้วก็เศร้าใจ เงินมาไวไปไวมาก เห็นแล้วก็เศร้าใจ

“งินตราคือมายา มันหมุนไปหมุนมาวนเวียนอยู่รอบ

ตัวเรา ข้มือขวาออกมือซ้ย แล้วก็หมุนเข้ามาใหม่ เพราะ

วงจรของเงินก็ต้องกรความสมดุล” เราทุกคนต่างมีภาระหน้ที่

มีรายจ่ยที่ต้องจ่ยไปอย่างไม่อาจเลี่ยง งินทองที่คุณหามาอย่าง

เหน็ดเหนื่อย ควรจะได้ทำหน้ที่ของตัวเองอย่างคัมคำ อะไรที่ควร

จ่ย ก็จ่ยไปอย่ดิดเยอะ ถึงคิดมากไป คุณก็ต้องจ่ายเงินอยู่ดี

“เมื่อไหร่ที่คุณจ่ายเงินออกไป เพื่อรองรับภาระ เพ

ตบแทนวิต ตอบแทนสังคม หรือต้องแบ่งปันด้วยรักและ

ศรัทธา จงจำยงินไปตัวบใจที่มั่นคง แล้วคุณจะมีเงินใช้จ่าย

อย่างไม่ขัดสนตลอดไป”

ด้วยใจมั่นคง

นับงินในกระเป้า

ก่อนนอนทุกวัน’

“หลักจากเสร็จกิจวัตรประจำวันแล้ว ก่อนเข้านอน คุณควร

พ้งินในกระเป้ตัวเอง ว่เหลืออยู่ห่ไหร่” คุณจะมองเห็นปริมาณ

งินในกระเป้า ว่ามันเข้า มันออกอย่างไร มองเห็นความผิดพลาด

ความชื่นใจ ที่ได้มาจากการไหลผ่านของเงินตราในมือคุณ “นับเงิน

ก่นนอนทุกวัน เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่ เพื่องินตราที่ไหลเวียนอย่าง

มีสติ” คุณจะมองเห็นความกระแสเงินสดในชีวิตทุกวัน เห็นความ

หวัง ความฝัน เห็นชีวิตตัวเองในมุมที่เป็นจริง คุณจะตอบตัวเองได้

ทุกวันววันนี้มีงินติดกระเป้อยู่เท่นี้ พรุ่งนี้ควรทำอย่างไรดีกับชีวิต

“กรนับเงินในกระเป้าทุกวัน จะชี้ให้คุณเห็นปัญหาที่

ช่อนอยู่ในพฤติกรรมการใช้จ่ายและจัดเก็บเงินทอง

นอกจากนี้ยังทำให้คุณตรวจสอบความเรียบร้อยของ

กระเป้าสตางค์ทุกวัน วมันเก่ไปไหมขาดตรงไหน ควรเปลี่ยน

ได้หรือยัง มีขยะหรือเปล่า เหลือเงินเห่ไหร่

คุณจะมีอำนาจเหลือล้น ในครควบคุมงินทองของตัว

เอง คุณจะเชื่อมั่นในตัวเอง เป็นผู้คุมเกมที่มีอำนาจเหนือเงิน”

2.

รู้ทันเกม

การตลาด

“หน้าที่ของนักกรตลาดก็คือ ย้ายเงินจากกระเป้าคนอื่น

มาไว้ในกระเป้าตัวเองให้มากที่สุด หน้าที่ของเราก็คือ

ปกป้องเงินในกระเป๋า อยู่ให้ใครมาควักเอาไป”

โลกของทุนนิยม HAUPEa AIimen ien

ตลาดทั่วโลก ต่างงัดกลเม็ดคล็ดลับออกมาควักงินออกจาก

ผู้คน เราจะถูกเป้าหูให้ซื้อ ซื้อ และก็ซื้อ! ถูกกรอกหูว่าบกพรอ

กระตุ้นให้เรียกร้องและต้องการสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดหย

“ถ้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเกมการตลาด สุดท้ยจะห

มืตมัควักงินออกจากกระเป้า จ่ายเพื่อให้ได้มา ตกเป็นหง

เถกางการตลาด หางินได้เห่ไหร่ไหลเข้ากระเป้าคนอื่นหมดชิภ

ไม่เหลืออะไรเลย”

“เกมการตลาดจะกดดันให้เราจ่าย

และจ่าย..อย่างไม่สิ้นสุด

ให้รเนี่ยงเนจิตใจไปในสันทางของพวกเขา อย่างเช่น คนหนุ่ม

หลายคงเคยห็นโฆษณาสินค้และบริการมากมาย ที่กระตุ้น

สว จะถูกกระตุ้นให้สึบกพร่อง สร้างปมด้อยที่ไม่จำเป็น ก่อนควัก

งินออกจากกระเป้ซื้อตัวของเครื่องใช้มาลบปมด้อยของตัวเอง

ไม่ว่จะเป็นกรกระตุ้นให้ขาว ให้ผอม ใครแตกต่าง

หลุดโ ถือว่ป็นสิ่งแปลกปลอมเงินในกระเป้าคนหนุ่มสาว

สิ่งที่ต้องใช้ทำมาหากินต่อไปใน

พอพ้นวัยหนุ่มสาว เข้าสู่วัยสร้างครอบครัว บริษัทสร้างบ้าน

มักสร้งภาพครอบครัวอบอุ่น มีพ่อ แม่ ลูก หมาอีก 2 ตัว วิ่งเล่นอย่าง

มีความสในบ้านเดี่ยวราคาแพง ที่มีพื้นที่ว่างรอบบ้านสำหรับเด็กๆ

สิ่งที่ติคอในใจของผู้คน ที่เห็นโฆษณาเหล่นี้ซ้ำๆ จะเกิดค่นิยมที่

ว่”ต้องบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ มีห้องส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน มี

สามหญ้าและที่ว่างให้ลูกวิ่งเล่น นั่นคือชีวิตที่มีความสุข”

ทั้งที่มีครอบครัวเล็กๆ ในตึกแถวมากมาย ที่มีความสุขได้ไม่

ต่งกัน การอยู่รวมกันในบ้านเดิมที่เล็กแต่อบอุ่น ไม่เสียค่าเซ่า คา

ผ่อน ทำให้กระแสเงินสดเฟื่องฟู จะกินจะใช้ในสิ่งจำเป็นก็ไม่ทุกข์

ใจ หกมีเรื่องต้องใช้งินฉุกเฉินก็ไร้กังวล ถ้าอยากวิ่งเล่นก็ไปวิ่งใน

สนามเด็กเล่น สนามโรงเรียน หรือพื้นที่ว่างอื่นๆ ในหมู่บ้าน

“ไม่ได้หมายความว่บ้านใหญ่ รถดี โรงเรียนดีๆ ไม่มี

ความสำคัญ แน่นอนมันดีที่สุด ถ้คุณเป็นเจ้าของสิ่งนั้นได้

ด้วยวิถีชีวิตที่ไม่เหนื่อยมากกินไป แต่ความจริงก็คือ ไม่ใช่คน

ทุกคนจะมีกำลังมากพอที่จะซื้อบ้านระดับสูง ได้แบบชิวๆ แต

เกมการตลาด จะผลักดันให้คนที่ไม่มีกำลังซื้อ ดิ้นรนที่จะซื้อ

อนาคต”

ให้ได้ สุดท้ายแม้จะได้เป็นเจ้าของคุณภาพชีวิตระดับพริง

แต่ก็ลงเอยด้วยการจ่าย จ่าย และก็จ่าย ถูกภาระเร่งเราก

ให้หาเงินตลอดเวลา กระแสเงินสดติดลบ หนี้สินพ

พอมีนแล้วก็ต้องมีรถยนต์ที่ดีสำหรับครอบครัว ในชณะ;

รถคันใหญ่สำหรับครอบครัว จะมีรดาแพง กินน้ำมัน นั่นคือปัญห

ที่คนขายรถต้องกลบให้มิด ด้วยการสร้างภาพลักษณ์แห่งคุณภาพ

ชีวิตเหนืชั้น คู่ควรแก่การจ่ายงิน ด้วยภาพของครอบครัวสุขสันต์

กับรถหรู

สุดท้ายคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ตามที่สมอง

ถูกยัดเยียดแบบไม่รู้ตัว พ่อแม่ยุคใหม่ จะจ่าย จ่าย และก็จ่ายต่อ

ไปอย่างไม่หยุดหย่อน พอมีบ้านมีรถแล้ว ลูกต้องเรียนโรงเรียน

นนาชาติเพื่อสร้างโอกาสและอนคตที่เหนือชั้น จ่ายเงินก้อนใหญ่

มหาศาลเพื่อการศึกษาที่ไร้ว่จะคุ้มคำการลงทุนหรือเปล่า สุดท้าย

ทั้ผ่อนบน ผ่อนถ สงลูกรียนในโรงรียนดีๆ ใครทำได้แบบนี้จึงจะ

เรียกว่ามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

แต่ความจริงของโลก ไม่มีใคร่ได้อะไรทุกด้านที่สมบูรณ์

แบบ ทำให้ต้องทำงนหนักทำงนกุกย่าง ทำงานตลอดเวลา

เพื่อหาเงินรองรับหนี้สิน”

กัดกินชีวิตและอนาคต”

หลายครอบครัวที่ภายนอกหรูนราฟูฟา คนนอกไม่มีใครรู้

พวกเขาใช้เงินเดือนชนคือน มีปัญหาด้านความสัมพัน

รอบครัว ไร้พลังเงินสดไว้รองรับชีวิตในเวลาฉุกเฉิ

“เคกรตลาด จะกดดันให้เราคว้าทุกอย่างไว้ในมือ แต

ในกชีวิต กรควไว้ทุกอย่าง ชีวิตจะแบกทุกข์ สุดท้ายเราจะ

ไม่เหลืออะไรสักอย่าง”

บัตรสะสมแต้ม ยิ่งทำให้จ่ายแพง”

บัตรสะสมแต้มสินค้และบริกรบางอย่าง สร้างภาระมากกว่า

ประโยชน์ แต่การสะสมเพื่อแลกซื้อหรือแลกของใช้ที่ไว้ประโยชน์

ก็วยวนให้เรต้องเก็บ สุดท้ายแทนที่จะซื้อเท่าที่จำเป็น แต่เพราะ

งานอดิเรกที่สะสมแต้มมานาน ทำให้ต้องซื้อให้ครบจำนวน เพื่อ

แลกแต้มหรือแลกแสตมป์ แถมพอสะสมครบแล้วยังต้องแลกซื้ออีก

หลายคนสะสมแต้มอย่างสนุกสนานเพื่อแลกซื้อกระทะ

เพียงใบเดียว แต่งินที่ซื้อแลแต้มไปนั้น ซื้อกระทะได้ 100 ใบ! ใช

แล้ว เรื่องพวกนี้เรต่างก็รู้ดี แต่วิถีทางการตลาดก็ทำให้เราสนุก

กับเกมสะสม สุดท้ายแลกแต้มซื้อของมากลายเป็นยิ่งแลกยิ่งแพง

ยิ่งสะสมยิ่งขาดทุน

“ก่อนสะสมอะไร คิดให้รอบคอบ ว่าจะสร้างภาระหริล

ประโยชน์ คุณจะหลุดออกจากเกมการตลาด ที่เต็มไปด้ว

กล พร้อมควักงินออกจากกระเป้าคุณให้มากที่สุด”

แต้มบัตรเครดิต คิดก่อนรุดปิด

หลายคนชอบรูดบัตรเครดิต เพราะมันมีแต้มสะสม ที่เอาไป

แลกของรางวัลมากมายได้ ถ้าจ่ายเงินสด ไม่ได้แต้ม ไหนๆ ก็ต้อง

เสียงินเหมือนกันแล้ว สู้รูดบัตรเอาแต้มไว้แลกของดีกว่า คนสมัยนี้

คิดว่า การจ่ายงินผ่านบัตรเครดิตสะดวกสบาย ได้ประโยชน์หลาย

ด้าน แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่แฝงอยู่ก็คือหนี้!

“บัตรเครดิตจะสร้างหนี้สินได้อย่างง่ายดาย เพราะ

ร่างกยของคุณจะไม่ได้สัมผัสงินขณะที่จ่ายไป แต่เงินของ

คุณ อนาคตของคุณ จะถูกดูดผ่นบัตรพลาสติก ไม่เห็นตัว

ตน เห็นแต่ตัวเลขลอยๆ ” ทำให้รู้สึกว่ไม่เสียอะไร จะรูด จะซื้อ

จะใช้ก็ทำไปแบบบายๆ ไม่ได้จับไม่ได้สัมผัสตัวเงินโดยตรง เราจะ

รูดบัตรแบบไม่ตัว งินในอนคตถูกดึงออกมาใช้อย่างไม่เสียดาย

กว่จะตัวอีกทีก็ตอนที่มีบิลมาเก็บตอนสิ้นเดือน เห็นยอดแล้ว หน้า

มืดเป็นลม!

แต้มสมาชิกร้นค้า ควรสมัครฟรี

ไม่มีวันหมดอายุ

ถ้คุณอยากสะสมแต้มอะไรสักอย่าง เพราะเห็นว่าเขา

มีปรมชั่นดีๆ และรางวัลที่ได้ก็คุ้มค เร้าใจ ใช้ประโยชน์ได้

ริง คุณควรเลือกสะสมแต้มสินค้และบริกรที่สมัครสมาชิก

ฟรี และไม่มีวันหมดอายุ” คืไม่มีค่สมาชิกรายปี รายเดือน ไม

อย่างนั้น มันก็เหมือนกับคุณเอาเงินตัวเอง จ่ายไปล่วงหน้าเพื่อซื้อ

สินค้าถูกลงเล็กน้อย ผลอๆ ส่วนลดที่ได้มา ยังไม่คุ้มค่าสมาชิกที่

จ่ายไปด้วยซ้ำ

นอกจากนี้แต้มที่สะสม ต้องไม่มีวันหมดอายุ สินค้าหรือ

บริการใดมีวันหมดอายุของแต้มสะสม ให้เลิกสะสมไปเลย จะไม่

สร้างภาระให้คุณในอนาคต ไม่อย่างนั้นลึกลงไปในใจคุณจะถูก

กดดันให้ซื้ และก็ซื้ เพื่อสะสมแต้มให้ครบเร็วๆ เพราะใกล้หมด

อายุเต็มที แทนที่จะได้แลกของฟรีมาใช้ กลับจ่ายเร็วจายแพงยิ่งกว่า

เดิม ที่แย่กว่านั้นก็คือ สะสมแทบตาย เสียงินไปตั้งเยอะ พอสะสม

แต้มครบ ก็หมดอายุพอดี!

อย่ายึดติดกับเกมสะสม

ถ้าไม่คุ้มอย่าเล่นเกม

ส่งรันหลายแห่ง ออกโปรโมชั่นซื้อครบ 50 บาท จะb

ส่วนลด 5 บาท ถ้ซื้อครบ 1000 บาท จะได้สวนลด 15 บาพ ปน

ปองแลกซื้อสินค้า สามารถเป็นสวนลดได้ในครั้งต่อไป ทำให้เ

ม่บำนพยายามซื้อเพื่อให้ครบ 500 บาท ทั้งๆ ที่ของจำเป็นต้องซื้อ

มันใช้งินแค่ 300 บาท กระตุ้นให้เราซื้อให้ครบ 500 บาท ได้สวนลด

5 บาทก็ยังดี

เคยเห็นผู้หญิงหลายคน หยิบของตรงหน้าเคาน์เตอร์จ่าย

งินแบบไม่ยั้งคิด ทั้งขนม ลูกอม น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพียงเพราะ

ยังขาดยอดซื้ออีก 120 บาท จึงจะครบ 500 บาท เพื่อแลกส่วนลด

5 บาท หลายคนคงคิดว่ามันช่างงี่เง่ใช่ไหม ซื้อของไร้สาระเพิ่มอีก

ร้อยกว่าบาท แลกกับเงิน 5 บาท

“ถ้ไม่ยืดติด ซื้อแค่ไหนจ่ายแค่นั้น ก็ไม่ต้องจ่ายเงินไป

ป็นร้อยๆ เพื่อแลกับงิน 5 บท แต่ในนทีที่อยากเอาชนะ

ได้แต้ตมเกทาตลาด ราจะขาดสติ และทำตามกติกาทุก

อย่าง เพื่อเล่นเกต่อไป เราจึงเห็นคนมากมาย ทำเรื่องงี่เง่าไร้

เหตุผล แม้แต่ตัวเราเอง ก็อาจป็นหนึ่งในคนพวกนั้น”

น้อยคือมาก ถูกคือแพง

แม้จะประหยัดอดออม รู้อยู่รู้กิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะ

ดัยชื้ของถูกเอาไว้ก่อน พราะของถูกบางอย่างคือของแพง หลาย

คบชื้อสินค้าลดรคในวลาห้างใกล้ปิด โดยเฉพาะพวกอาหาร

ปรุงสำเร็จจะลดราคามากถึง 50 เปอร์ซ็นต์ คนมากมายรุมซื้อ

เมื่อก่อนฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ซอบซื้อของลดครึ่งราคา แต่พอ

กลับมาบ้าน แกะห่อพลาสติกออก ปรากฏว่าอาหารบูดหมดแล้ว

บางห่อขึ้นร บางห่อเน่าเสีย มีกลิ่นหีน พวกผักผลไม้ลดราคาก็เน่า

เสียคิไม่ได้ สุดท้ายต้องโยนของเหล่นั้นทิ้งขยะ “สรุปว่าเพราะ

เห็นแก่ของถูก เลยเสียงินฟรี เดี๋ยวนี้จึงลาขาด อาหารลดราคา

ตามห้าง ต่อให้แจกฟรีฉันก็ไม่เอา”

ของถูกที่แพ็คขายลดราคา น้อยชิ้นมากที่กินได้อย่างปลอดภัย

ทางที่ดี คืออย่เสี่ยงเพียงคิดประหยัดงินเล็กๆ น้อยๆ มันจะทำให้

คุณเสียมาก เสียแพง ของไร้คุณภาพส่งผลเสียกับร่างกาย ทำให้

เจ็บป่วย เสียงินรักษาอีก ที่นี่ประเทศไทย อะไรที่ลดราคา สิ่งนั้น

มักเป็นของเสียรอทิ้ง ผิดกับประเทศอื่นๆ อย่างเซ่นประเทศญี่ปุ่น

ข้วกล่องที่ลดราคตอนเย็น จะเป็นอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ พอ

ลยวลาที่กำหนด ขาจะลดรคทันที และของที่เหลือจะทิ้งราย

7วัน ไม่เก็บไว้ข้ามคืน

“ของใช้บางอย่าง ถ้มนต้องจำยแพงก็พทำง สำ

พวกนาพิกา รองเท้า หรืออาหารสำเร็จรูปที่ต้องการควา

ใหม่ เพราะเราสามารถเลือกซื้อของในราคาสมน้ำสมเข่

แต่ของถูกเกินไป มักมีคุณภาพต่ำ อายุการใช้งานสั้น ต้อง

เปลี่ยนบ่อยๆ ในขณะที่ของบางอย่าง ราคาอาจแพงกว่า แ

คุณพกิม จำยครั้งเดียว ใช้งานไปอีกยาวนาน ก็ถือว่าคัมค่

ต่หัดใช้สินค้านอกกระแส

ของถูกและดี

รดาสินค้ที่เราเห็นและจ่ายเงินซื้อหามาใช้ คุณรู้ไหม

ว่า 3 เปอร์เซ็นต์ของรดาขาย คือค่าโฆษณา” ที่บริษัทผู้ผลิต

บวกพิมข้ไป อย่งช่น ครีมกผิวขวดละ 130 บาท ราคาจริงคือ

100 บาทอีก 3 บาท คือคำโฆษณา นั่นหมายความว่า ยิ่งคุณใช้

สินคำตามกระแส คุ้นหูดันต และเป็นที่นิยมในหมู่คนส่วนใหญ่ คณ

กับเงินที่เสียไป

จะยิ่งต้องจ่ายแพง แลกกับสินคำที่คุณภาพไม่สมราคา

ล้วช้เรดาถูกทดท อเอางินไปจำยคำโฆษณา เพื่อกระตุ้น

ผู้ผลิตจะลดต้นทุน ตัดสนผสมที่ปลอดภัย และมีประโยชน์

คนซื้อ และซื้อให้มากที่สุด อัดฉีดโษณาเข้าไปไม่ยั้งให้ติด

ถ้คุณใช้สินด้ตามกระแส คุณจะจ่ายแพง แถมสินค้าก็

คุณาพแย่กว่ความจริง ปัจจุบันจึงมีคนกลุ่มหนึ่งเริ่มหันมาใช้

สค้นอกกระแสที่คุณภาพสูงคุ้มกับเงินที่จ่ยไป อย่างเช่น สบู่

แชพู ของกินของใช้จำเป็นบางชนิด ที่ผลิตโดยกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ

อย่างสินคจากกลุ่มแม่บ้าน ซื้อข้าวจากกลุ่มชาวนา ซื้อกระเป้า

รองทที่ผลิตโดยซ่งฝีมือแบบแฮนด์เมด ซื้อผักจากกลุ่มเกษตร

ชุมชน เป็นต้น

“สินค้านอกกระแส ไม่มีกรโฆษณาทางกรตลาด จะมี

กระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ต้นทุนผลิตคือแรงงาน และ

วัตถุดิบคุณภาพดี จึงมีรดาถูกกว่าสินค้าชื่อดังทั่วไป เพราะ

บอกต่อกัน แบบปากต่อปาก ค่อยขยายไปวงกว้าง สินค้า

คุณภาพดีจะขายได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าโฆษฌาจำนวน

มหาศาลเหมือนสินค้าในกระแสทั่วไป”

ผิตา สร้างกำไรในธุรกิจอย่างมหาศาล

เสินค้างินผ่อน แผงความรู้สึก

สมัยนี้อะไรๆ ก็ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ การจะซื้ออะไรสักอย่างหริ

เปลี่ยนของใช้บางอย่างที่ยังใช้ได้ดีแต่เรารู้สึกเบื่อ มันช่งงย

ไปหมด การซื้อ การขาย ผ่านเกมการตลาดผ่อน 0 เปอร์เซ็น

ทำให้ซื้อง่ายขายคล่องเป็นวงกว้าง เพราะมันกระตุ้น ปลุกเร้า

ไต้ดสินใจ ตัดทางเลือกที่เป็นกังวล หลายคนจึงซื้อข้าวของเศรื่อง

ใช้อย่างไม่ลังเล ด้วยเหตุผลที่ว่ ผ่อนไม่เสียดอกเบี้ย ตลอดชีวิตจึง

มีแต่ผ่อน ผ่อน และก็ผ่อนอย่างไม่หยุดหย่อน

“จริงอยู่ กรผ่อนผ่นนโยบายไร้ดอกเบี้ย คุณอาจไม่

เสียดอกเบี้ยก็จริ แต่มันเป็นกรจ่ยที่แผงความรู้สึก เพราะ

เป็นภาระเกี่ยวเนื่อง ให้เสียงินอย่างซ้ำๆ แต่ว่ายังยืน น่าเบื่อ

หน่าย

ที่สำคัญ ทันทีที่ซื้อ คุณจะเสียไปมากกว่าดอกเบี้ยอีก

เพราะรดาขาย จะถูกำหนดไว้เกินจริง เพื่อแบ่งเปอร์เซ็นต์

จากยอดขาย

ให้สถาบันทารเงินที่ป็นคู่ด้ แม้ไม่ได้ดอกเบี้ย แต่ได้

ส่วนแบ่งจากยอดขาย แลกกับกรปล่อยกู้ มีกำไรมหาศาลจน

ปล่อยกู้แบบไม่คิดดอกเบี้ยได้”

ผลิตลง

ไม่มีของถูกของฟรีในโลกนี้จริงๆ หรอกเพราะต้องลดดันทุน

หมากที่สุด ผู้ผลิตสินค้าจะคิดราคาที่ต้องแบ่งเป็นดอกเบี้ยให้

าร หรืบัตรผ่อนสินค้า บวกไปกับผู้ซื้อ และลดคุณภาพการ

ถ้สังเกตดีๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยนี้มีราคาถูกจริง แต่ก็มีอายุ

การใช้งานเพียง 3 ปี หมือนมีระเบิดเวลากำหนดไว้ ซ่อมก็ไม่คุ้มขาย

ทิ้งก็ไม่ได้ สุดท้ายต้องซื้อใหม่ “กว่าจะผ่อนหมด ของก็พังพอดี

ผ่อนหมดปุ๊บ ซื้อใหม่บ แล้วก็อยู่ในวังวนการผ่อนส่งต่อไป

3.

กระแสเงินสด

สร้างอนาคต

“ต่อให้มีที่ดิน เป็นพันเป็นหมื่นไร่

หรือมีทรัพย์สินมากมาย จากกองมรดก

แต่ในเวลาที่ต้องใช้เงินเร่งด่วน

หลักรัพย์หล่นั้น ก็เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไม่ง่ายนัก

หลักทรัพย์ทั่วไปอาจทำให้คุณ

อบอุ่นมั่นคงในระยะยาว

แต่กระแสงินสด จะทำให้ชีวิตคุณ

โลดแล่นอย่างรวดเร็ว”

อย่าอ้างว่ไม่มีงินพอก็บออม หรือมีทรัพย์สินใน

แบอื่นมากมายพอแล้ว ถ้าคุณอ้างว่าไม่มีเงินพอจะเก็บ ต่

มีรายได้เดือนละหนึ่งแสนบาท คุณก็จะมีรายจ่ายเดือนละห

บาท แล้วก็เก็บงินไม่ได้อีกเหมือนเดิม

ถ้คุณอยากมีชีวิตโลดแล่น รวดเร็ว ก้าวผ่านทุกปัญหา

มป็นคนที่มีกระแสงินสดคล่องตัว คนมีเงินอยู่ในมือ จะเหนือ

กร็กว่คนอื่นเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่มีจังหวะ กรลงทุนที่

กระชั้นชิด ต้องการความรวดเร็วคล่องตัว”

อย่างชน คุณไปเจอที่ดินแปลงเล็กๆ รดาไม่แพง และใน

นาคตอันใกล้จะทำกำไรได้อย่างงดงาม แต่ที่ดินผืนนั้น มีคนหลาย

คนต้องการจะซื้อ งานนี้ใครดีใคร่ได้ คนอื่นอาจต้องไปวิ่งหาเงิน เล่น

แแปรรตุ แปลงทรัพย์สินเป็นงินสด แต่คุณอาจเป็นคนเดียว ที่มี

งินสดในมือ พร้อมจ่ายได้ทันที ชัยชนะของคุณอยู่ตรงนี้เอง คนขาย

ย่อมขายให้คนที่พร้อมจะซื้อ ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่มีงิน พร้อมจ่าย

ทันที ที่ตรงนั้นจะเป็นของคุณ นี่คืออำนาจกระแสเงินสด

“กระแสเงินสดควรเป็นงินเย็น ๆ ไม่จำเป็นต้องมีมากมาย

ต้องมีบ้าง เพื่อสร้างอำนาจทางการเงินที่รวดเร็ว เ

เงินสดจะนำพาหลักทรัพย์อื่นๆ มาให้คุณ แต่คุณจะทำอะไร

ไม่ได้เลย ถ้ไม่มีเงินสดเป็นตัวต่อรอง”

ต่จะงินเฟ้อ งินฝืด

ยังไงก็ต้องออมไว้ก่อน”

เงินไมใช่สิ่งสำคัญสูงสุด และไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แร

เรอาเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไปทั้งหมด ถ้าไม่มีเงิน ทำมค,

พายุร้ายในค่ำคืนที่เหน็บหนาว เงินคือผ้าห่มอุ่น จะทำให้คุณ

รอดชีวิต ผ่านคืนวันอันโหดร้าย และก้าวไปสู่วันใหม่ ได้อย่าง

ปลอดภัย ต่อให้คนทั้งโลกเมินหน้าหนี ต่อให้ไม่มีที่พึ่งพา เงิน

ของคุณ จะกอบกู้ชีวิตคุณได้”

คุณอาจคิดว่าการเก็บงินสด แม้จะมีเงินออม แต่ค่าของมัน

จะลดลตลอดเวลา เรียกว่อัตรางินเฟ้อเติบโตสวนกระแสกับมูลค่า

แท้จริงของเงินตร ปัญหนี้มันเกิดขึ้นตลอดเวลา และเป็นปัญหา

ระดับโลก ที่คนทั่วโลกต้องเจอ เพราะเกมการเงินมันหมุนเวียนไป

มาในโลกใบนี้อย่างรวดเร็ว ยิ่งโลกสมัยใหม่ ที่การสื่อสารก้าวหน้า

เหมือนย่อโลไว้ในมือ ยิ่งทำให้งินเฟ้อเร็วยิ่งกว่าเดิม

แต่ม่วยังไงก็ตาม “แม้การก็บงิน จะทำให้มูลค่าของมัน

ลดลง แต่ยังไงก็ต้องออมงินไว้ก่อน ยอมให้มันเฟ้อฝืด ยืดยาดไปสัก

พัก จนกว่างินจะตั้หลักแข็งแรง พร้อมให้พึ่งพา” เมื่อเงินออมเป็น

กลุ่มก้อนที่แข็งแรง พอมีช่องทางการลงทุนด้านอื่น ที่ต้านเงินเฟ้อ

ได้ตีกว่ คุณก็แบ่งงินเก็บก้อนนั้นออกเป็นสวนๆ

สนคับเป็นงินสดบางส่วน และเพิ่มเติมลงไปแบบช้าๆ กับ

เงินก้อนหนึ่งไปลงทุนด้านอื่น เช่น ทองคำ ที่ดิน หรือหู

พูดถึงเรื่องหุ้น เป็นกรลงทุนที่ต้องระวัง ถ้าคุณไม่มี

ม้หลือฟื หรือเป็นมือโปรศึกษาข้อมูลมาอย่างดี อย่าเสี่ยง

ลหุนในหุ้นเด็ดขาด

เพราะมันจะทำให้เงินออม ที่คุณอดออมมาอย่างยาก

ลำบาก มลายหายไปในพริบตา ที่เขาเรียกว่าแมงเม่าบินเข้า

กองไฟ”

“โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ความร่ำรวยไม่มีอะไรเร็ว การเล่นหุ้นก็

คล้ายซื้อหวย โอกาสรวยฟ้าฝ่าเป็นไปได้ยากมาก” ถ้าคุณเพิ่งเริ่ม

เก็บออม มีงินเพียงเล็กน้อยไว้ลงทุนควรเลือกการลงทุนที่ความ

สี่ยงต่ำ อย่างทองคำ พันธบัตรฐบาล หรือโครการฝากงินระยะ

ยาวดอกเบี้ยสูง

‘ถอดหน้ากาก

ลาจากสังคมแพงไร้สาระ

ถ้าเลิกไม่ได้ก็ต้องหักดิบ

สิ่งที่ดูดงินออกจากกระเป้เราเร็วที่สุด ง่ยที่สุด ก็คือการ

จ่ยเพื่อรักษาหน้ต การเดินตามกระแสสังคม ติดเที่ยว ติดกิน

หรหร รักเพื่อนหลงเพื่อนเฮไหนเฮนั่น รวมทั้งคำนิยมในการใช้ของ

แพง เสริมแต่งเกินตัว ที่สำคัญก็คือรสนิยมไม่สมรายได้

“คนสมัยนี้มักรสนิยมสูง เทสต์สูง หรูหรา อะไรๆ ก็

มาตรฐานสูงทุกด้าน แต่ต่ำอยู่อย่างเดียว ก็คือรายได้!” ถ้าคุณ

ไม่ยากเป็นคนอนถตอนแก่รีบถอดหน้ากาก ลาจากสังคมราคา

แพงไร้สาระ ก่อนที่ชีวิตคุณจะไม่เหลืออะไรเลย

คนเรามักรู้ตัวเมื่อสาย ในวันที่เรไม่มีแรงและแก้ไขอะไรไม่

ได้แล้วถ้าคุณลิกไม่ได้ ยังติดใจยังแคร์คนอื่น ลองใช้วิธีหักดิบ เวลา

เพื่อนโทรมชวนไปกินอหารญี่ปุ่นไอโซ ก็ปฏิเสธบ้าง “ค่อย ๆ เริ่ม

ต้นใช้ชีวิตเรียบง่ยอย่งช้ๆ แล้วคุณจะเห็นคุณค่าของความ

ธรรมตาที่เรียบง่าย”

“วาสนาแข่งไม่ได้

กระคนเราไม่เท่ากัน”

อยครั้งคุณอาจเห็นคนอื่นใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ใช้เงิน

ตำมีวามสุข อยากได้อะไรก็ได้ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย เหมือน

พื่อบางคนของคุณ ผอเรียนจบพ่อแม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ออกเงิน

แต่งานให้แบบไม่ต้องลำบาก

พอมีลูกผ่แม่ยังช่วยจ่ายคเทอมหลานในอนาคตยังมีมรดก

ก่เบกิน ในขณะที่ตัวคุณ ต้องอดออมอดทน ทำงานยากลำบาก

กว่าจะได้อะไรมาสักอย่างช่างแสนลำเค็ญ ต่างจากเพื่อนบางคน

เหมือนฟ้ากับเหว

แม้สิ่งที่เป็นจะทำให้เจ็บจี๊ดๆ ในใจ แต่ถ้าคุณคิดมาก

เปรียบเทียบ คุณจะเหนื่อยล้าท้อแท้ ถ้าคุณไม่มีวาสนาได้อะไรมา

ง่ายๆ แบบข เรื่องแบบนี้บางที่ก็อยู่ที่วาสนา เหมือนที่โบราณว่าไว้

“วาสนาคนเราแข่กันไม่ได้ ภาระคนเราไม่เท่กัน อย่าเอาตัว

เองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จงอยู่กับปัจจุบัน หันมองความ

จริงและสิ่งที่เป็น”

จ่ายเพื่อให้ได้มากกว่า..

คือจ่ายเพื่อพัฒนาตัวเอง

ถ้าคุณเป็นคนวัยหนุ่มสาว ไม่มีการลงทุนใดคุ้มค่ไปกว่า

ลงทุนเพื่อพัฒนาตัวเอง อย่างเช่น จ่ายเงินเพื่ออบรมเพิ่มทักษะใ

แล้วเอทักษะนั้นมาใช้งานเพื่อสร้างรายได้และความก้าวหน้านำพ

ชีวิตคุณก้วไปสู่อนาคตที่งดงาม ความรู้ ความสามารถ “จังหวะ

ชีวิตที่ลงตัวทางการงาน บวกกับการจัดสรรเงินทองอย่างมีสติ

จะทำให้คุณมีทรัพย์สินมั่งคั่ง อะไรที่ยิ่งจ่ายยิ่งจน จงรู้สึกตัว

และรีบเปลี่ยนแปลง”

แอย่าปล่อยชีวิตไปตามกรรม

ทบทวนการงาน และการมินของตัวเอง”

เมื่อหันมามองกระเป้าสตางค์ และมองออกไปรอบตัว คณ

อาจสะดุ้งสุดตัว เพราะตัวเองไม่มีอะไรเลย ทำงานไปวันๆ หาเงินกิน

ข้าว จ่ายหนี้ เที่ยวกินสังสรรค์ รวยวันเดียวคือว้นงินเดือนออก สิ้น

ดือนเหมือนสิ้นใจ หกคุณรู้สึหวั่นไหวไม่มั่นคงในการงานการเงิน

จทบทวนการงนการงินของตัวเอง หันมองความจริง เพื่อยอมรับ

และกล้าเปลี่ยนแปลง

แต่ม่สร้างอนาคตดีที่สุดจริงหรือ

หลายคนบอกว่าความสุขสำคัญที่สุด ที่ทำงานปัจจุบันเต็ม

ปความสุข แต่คำตอบแทนต่ำ ไม่พอกับความต้องการ ขนาด

ะหยัดแทบตาย ยังใช้เดือนชนเดือน ไม่มีงินเก็บออม ฐานเงิน

ตียที่นี่ต่ำ งานไม่กดดันอยู่กันเป็นครอบครัว ถึงจะจนแต่ก็มีความ

เลยไม่อยากเปลี่ยนงานไปอยู่ที่อื่น

ถ้ามองในแง่ดี ความสุขสำคัญสุดมันก็จริง แต่ความสุข

จะมลายทันที ถ้าคุณมีปัญหาชีวิต ต้องใช้งินด่วน แต่ไม่มีเงิน

ให้ใช้วิ่งวุ่นวายหัวซุกหัวซุ หาหยิบยืมคนอื่น แล้วใครๆ ก็เมิน

หน้าหนี ทุกคนมีภาระตัวเอง โลกนี้มีงานมากมาย ที่สร้างราย

ได้ และสร้างความสุขไปด้วย พียงแต่คุณต้องแสวงหาอย่าง

กล้าหาญ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง”

“ฐานสร้างสุข

“เปลี่ยนงาน

ถ้าสิ่งที่เป็นอยู่ตอบโจทย์ชีวิตไม่ได้”

งานบางอย่งที่รายได้ต่ำ แต่สร้างสุข อาจเหมาะกับคนบาง

คน อยงเช่น คนที่พื้นฐานชีวิตดี มีทุกอย่างเพียบพร้อมสมบุรณ

ต้องการทำงานเพื่อชีวิตที่มีคุณค่ แต่มันไม่เหมาะกับคนตันทุนต่ำ

ต้องเริ่มสร้างจากศูนย์หรือติดลบ ถ้าคุณต้นทุนต่ำ คุณจะดื่มต่ำกับ

ความสุขได้ไม่นาน วันเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้คุณอาจ

ไม่กลัว แต่สักวันคุณจะแก่ลง คนรอบตัวแก่ลง เรื่องต้องใช้เงินเยอะ

แยะมากมาย

“ถ้าคุณปล่อยตัวปล่อยใจ ให้จมกับงานสร้างสุขแต่

เงินน้อย ตอนอายุน้อยๆ จะไม่ใช่ปัญหา แต่พออายุเยอะขึ้น

ภาระเยอะขึ้น คุณจะชาบซึ้งถึงคุณค่าของเงินตรา ก่อนพูดกับ

ตัวเองว่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะเปลี่ยนงานใหม่ ฉันจะ

ไปทำงานที่มีรายได้มากกว่านี้”

“จ่ยด้วยเงินสด เพื่อสร้างสติ

จ่ายเงินด้วยบัตรดรดิต แม้จะสะดวกสบาย แถมได้แ

ะไว้แลกของยอะแยะ รูดบัตรเดียวได้สารพัดประโยชน์ แต

สติกจะทำให้เราขาดสติ เวลารูดบัตรคุณจะเห็นแต่ตัวเลขล

ม่ตะต้องสัมผัสงิน ทำให้รูดเพลินเกินห้ามใจ แต่ถ้าใช้เงินสด

ผจะได้สัมผัสงิน ได้เห็นมูลคำแท้จริง และได้รู้สึกเสียดาย “ถ้า

ช่จ่ายด้วยเงินสด ก่อนซื้ออะไรแพงๆ คุณจะมีสติยับยั้งชั่งใจ

มากกว่าใช้บัตรเครคิต”

“ชำระหนี้บัตรเครดิต

ให้มากกว่างินขั้นต่ำที่ต้องจ่าย

อยจ่ายบัตรเครดิตแค่จำนวนขั้นต่ำ เพราะมันจะทำให้คุณ

มีหนี้สะสมอย่างไม่หยุดหย่อน การจ่ายขั้นต่ำเป็นพฤติกรรมซ้ำเติม

ตัวเอง การจ่ายหนี้แค่ชั้นต่ำ “หนี้สินของคุณจะไม่มีวันหมด เพราะ

ขั้นต่ำที่จ่ยไปนั้น มันข้างินต้นน้อยมาก นอกนั้นเป็นดอกเบี้ยและ

ค่าธรรมเนียมสารพัด เป็นวังวนนรกหนี้ทั่วชีวิต

แยกงินออมไว้ในบัญชีลึกลับ

อย่าใส่เงินไว้ในบัญชีที่มีบัตรเอที่เอ็มให้ถอนง่ย เพราะเรล

ที่ความอยากได้ครอบงำ จะได้ถอนออกมาใช้ลำบาก เงินเก็บ

เฉิน หรือว่าเงินออมเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด คณ

ก็บงินออม ไว้ในบัญชีลึกลับ ที่ถอนยากสักหน่อย “เป็นการสร่าง

มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด คุณจะได้ไม่

เงินก้อนนั้นมาใช้ผิดวัตถุประสงค์”

“ทำบัญชีรายจ่ายในแต่ละวัน”

หลายคนคงสงสัย ว่ทำไมต้องทำแต่บัญชีรายจ่าย เพราะ

ที่เรได้รับการสั่งสอนตลอดเรื่องบัญชีก็คือต้องทำบัญชีรายรับ-ราย

จ่าย เพื่อความถูกต้องหมาะสม คำตอบก็คือ นั่นมันเรื่องของนัก

บัญชีเขา “ถ้าต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด หลายคน

จะเกียจ เพราะมันยุ่งยาก ลำบาก สุดท้ายไม่ทำ หลอกตัวเองไป

วันๆ เหมือนเดิม”

“ทรทำบัญชีด้วยวิธีจดแต่รายจ่ย จะลดความยุ่งยาก

ในครคิดคำนวณ มันยในกรหาข้อสรุปว่าในแต่ละวันคุณ

ใช้เงินทำไหร่ จ่ยไปกับอะไรบ้าง แต่ถ้จดรายรับรายจ่าย

ทั้งหมด หักลบคำคงเหลือทุกวัน สุดท้ายคุณจะขี้เกียจ เลิกจด

เลิกจัดกร และลงเอยด้วยความจน ใช้เงินหมดตัวทุกเดือน”

แม้จะผิดหลักการทำบัญชีไปหน่อย แต่มนุษย์งินเดือนทั่วไป

นใหญ่มีรายรับตายตัว การคำนวณรายได้ทำได้ไม่ยาก คุณแ

ายจ่ายรายวัน แล้วเอายอดมาหักลบตอนสิ้นเดือน ว่ามันคงเหลือ

ดลบเท่าไหร่ ก่อหนี้สินแค่ไหน เหลือเก็บออมหรือเปล่า แ

คุณก็จะได้รู้ สถานะทางการงินของตัวเองได้แล้ว

พอถึงสิ้นปี จงรวมงินรายจ่าย ที่คุณจ่ายออกไป ตัวเลขที่ได้

คืเงินที่อกจากกระเป้า ส่วนรายรับมันไม่ยาก คุณก็รวมรายได้

ทั้งปีทั้งงินเดือน งินพิเศษ และโบนัส เอามาหักลบรายจ่าย ตัวเลข

ที่ได้เป็นอย่งไรคุณมีงินเหลือเก็บออม ใช้หนี้ใช้สิน หรือไม่เหลือ

อะไรเลย นั่นคือปัญหาที่คุณต้องแก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง

“ทุบกวนตัวเลขรายได้และรายจ่ายทุกสิ้นปี เริ่มตั้งแต่

ปีนี้ แล้วดูว่าสิ้นปิ คุณมีงินเหลือเก็บออมเห่ไหร่” ใช้หนี้ใช้สิน

หมดไหม หรือมีหลักทรัพย์อะไรเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง ถ้าคำตอบคือ

ไม่มีอะไรเลย นอกจากหนี้ หนี้ และหนี้ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป ริ่ม

ต้นวางแผนตามหดวามมั่นคงตั้งแต่ปีนี้ พื่อพื้นฐานที่ดีของปีต่อไป

“อยปล่อยชีวิตไปตามวรตามกรรม ถ้าคุณขยันหมั่น

เพีย คุณจะมองเห็นปัญหาและอุปสรรค พร้อมแก้ไขปรับ

ลี่ยนอย่างช้ๆ จนมีเงินก็บออมตอนสิ้นปี และมีเหลือมา

ขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่คุณ ต้องไม่โกหกตัวเอง เพื่อเลี่ยงปั

ไปวัน ๆ”

4.

หลักทรัพย์ที่สอดคล้องกับวัย

อุ่นใจไปจนเกษียณ

“ถ้าวันนี้คุณยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว

เมื่อได้ยินคำว่วางแผนวัยเกษียณ คุณคงหัวเราะจนน้ำตาไหล

หลายคนคิดว่าวัยชรายังอยู่อีกยาวใกล

มีเวลามากมายให้คิดและทำ

แต่ความจริงก็คือ แค่คุณเข้านอนในวันนี้

พอตื่นเช้ขึ้นมาอีกวัน คุณอาจลืมตไม่ขึ้น เคลื่อนไหวเชื่องซ้า

พอลุกจากตียงขึ้นมาได้ และเดินไปส่องกระจกในห้องน้ำ

คุณจะตกใจแทบช็อค พร้อมถามตัวเองว่า

ตาแก่ยายแก่ในกระจกนั่นเป็นใคร

ความชราจะมาเยือนแบบไม่ให้คุณรู้ตัว

นี่แหละความจริงของชีวิต”

คนรอบตัวคือ

จักรวาลของคุณ

“สายสัมพันธ์ที่ร้อยรัก สร้างทั้งความอบอุ่นและทุกข์ทน

นั่นคือความจริงของชีวิต

คนที่อยู่รอบตัวคุณจะนำพาทั้งความสุข

และความทุกข์มาให้อย่างไม่อาจหลีกเลี้ยง

เพราะคนรอบตัว คือจักรวาลของเรา สิ่งที่เกิดกับพวกเขา

จะสะเทือนถึงชีวิตคุณ ดังนั้น จงเลือกจักรวาลของคุณ

อย่างพิถีพิถัน แล้วชีวิตคุณจะไร้ปัญหาใหญ่”

ลูกๆ ของคุณ”

คู่ชีวิต สำคัญที่สุด

จูลือกอย่างพิถีพิถัน

ถ้ตอนนี้คุณยังมีอายุน้อย คุณอาจคิดว่าพ่อแม่ พี่น้อง คือ

ผกลางของจักรวาล หลายคนคงเคยได้ยินภาษิตโบราณกล่าวว่า

สมี ภรย และลูกเหมือนเสื้อผ้ แต่พี่น้องคือแขนขา นั่นแปลว่า

ญาติพี่น้อง สำคัญกว่าลูกและคู่ชีวิตใช่ไหม อาจจะใช่ ในแง่ความ

กญญูต่อบิดามารดาและญาติพี่น้อง แต่ถ้าคุณเติบโตจนถึงช่วง

หนึ่งของชีวิต คุณจะเข้าใจทันที ว่ คนที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ครอบครัว

เดิของคุณ แต่เป็นครอบครัวใหม่ที่คุณสร้างขึ้น นั่นก็คือคู่ชีวิตและ

“คู่ชีวิตไม่ใช่ทั้งเสื้อผ้า ไม่ใช่ทั้งแขนขา แต่เป็นครึ่งหนึ่ง

ของชีวิต คุณต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน คู่ครองจะนำพาความสุข

ความเจริญ และนำพาความขมขื่นทุกข์ระทม มาให้ได้อย่างเท่

เทียมกัน ต่างกันเพียงแค่เลือกผิดกับเลือกถูก”

เราเลือกพ่อแม่ไม่ได้

แต่เราเลือกคู่ครองได้

“คนเราเลือกพ่อแม่ไม่ได้ ครอบครัวแรกที่เกิดมา จึงแล้ว

แต่การนำพาของโชคชะตา” แต่ถ้าคุณอยู่รอดปลอดภัย ใช้ชีวิตมา

ได้จนถึงวัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าที่ผ่านมา คุณจะสุขสม หรือทุกข์ระทมกับ

ครอบครัวเดิมของคุณ “เมื่อมีโอกาสสร้างครอบครัวใหม่ คุณจะมี

โอกาสได้เลือกชีวิตด้วยมือของคุณเอง ไม่เกี่ยวกับการนำพาของ

โชคชะตาใดๆ “

คู่ครองต้องศีลเสมอกัน มีความดีเท่าเทียมกัน นั่นคือคู่ครอง

ที่ดี ถ้าคุณดีงม แต่คู่ของคุณอยู่ขั้วตรงข้าม ก็ไม่ต้องคิดอะไรอีก

แล้ว รีบหนีให้ห่ง “อย่หาข้ออ้างเพราะรัก โทษเวร โทษกรรม

จำยอมอยู่อย่างมีความหวัง ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เพราะเขาจะไม่มีวันเปลี่ยน”

คนที่จะอยู่ข้างเราจนวันตาย คือคู่ชีวิต

คุณคงสงสัย ว่ทำไมคู่ครองจึงสำคัญกว่าญาติพี่น้องเสีย

อี คำตอบก็คื “เมื่อคุณเจ็บปวด ร้าวราน แม้ในวันที่เจ็บป่วย

ล้มตาย คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ก็คือคู่ครอง”

คอนนี้คุณอาจไม่ชื่อ แต่ถ้าคุณแก่ตัว โดดเดี่ยว ญาติพี่น้อง

ล้เพื่อนทิ้งขวัง คุณจะรูซึ่งถึงใจ แต่อาจเป็นวันที่สายเกินม

จงทำดีกับคู่ชีวิตและลูกๆ ของคุณ

คุณคงเคยเห็นคนมากมาย โดยเฉพาะผู้ชายไทย มักชอบทำ

ตีบคนอื่น ทุ่มเทเพื่อคนอื่น แต่โหดร้ายกับลูกเมีย พอมีครอบครัว

ก็มแล ทิ้งๆ ขว้างๆ แถมบางคนยังเบียดเบียนล้างผลาญ พอถึง

ขั้นปลายชีวิต ทั้งเจ็บปวยทั้งยากจน ก็หอบสังขารมาหาลูกเมียที่

เดทอดทิ้งไป ลูกเมียเก่ ขาก็ดูแลตามมีตามเกิด ตามหน้าที่ แต

ไม่มีใจ ดังนั้น “จงดูแลคู่ชีวิต และลูกๆ ของคุณให้ดีที่สุด”

อย่าเห็นคนอื่นดีกว่าคู่ของคุณ

ไม่ว่าจะถูกจะผิด จงยืนเคียงข้างคู่ครองของคุณ ฟังดูช่างเห็น

แก่ตัวใช่ไหม การยืนเคียงข้างจะทำให้อีกฝ่ายไม่โดดเดี่ยว พร้อมร่วม

ทุกข์ร่วมสุข และคุณไม่มีวันห็นคนอื่นดีกว่าคู่ชีวิตของตัวเอง ไม่ว่า

คนอื่นจะเป็นอย่างไร ไม่ว่คนรักของคุณจะดีบ้างแย่บ้างอย่างไร แต

สุดท้ายก็คือคนที่อยู่เคียงข้างคุณ

เลือกคู่ผิด อย่ายอมทุกข์จนตัวตาย

อย่าละเลย ถ้าเลือกคู่ผิด จงคิดแก้ไขไม่ว่าคุณจะมีลูกกี่คน

อย่อางว่าทเพื่อลูก เพราะลูกของคุณจะเจ็บปวดแสนสาหัส พวภ

เด็ๆ จะรู้สึได้อย่างง่ยดาย ว่าคุณไม่ได้ทนเพื่อเขา แต่คุณทนเพื่อ

ตัวเอง โดยเอาลูกมาเป็นข้ออ้าง “ถ้าคุณเลือกคู่ผิด อย่ายอมทุกข์

จนตัวตาย พลิกเกมชีวิตให้ได้ เพื่อวันเวลาที่เหลืออยู่ คุณจะได้

ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

ตัดฉับความสัมพันร

ที่ทำให้ชีวิตคุณวุ่นวาย

สายสัมพันธ์ที่อบอุ่น จะทำให้ชีวิตมั่นคง แต่สายสัมพันธ์ที่

หนักหวง จะทำให้ชีวิตไม่สงบ คุณจึงต้องบริหารจัดการสายสัมพันธ์

รอบตัว ให้เข้ที่ข้ทางเสมอ กำจัดตัวถ่วงที่ทำให้ชีวิตคุณวุ่นวาย

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ชอบสร้งปัญหา ญาติพี่น้องที่ชอบเบียดเบียน

เพื่อนร่วมงนที่สัมพันธภาพที่ดีต่อกัน “ตัดฉับให้เต็ดขาด กับ

ความสัมพันธ์สร้างทุกข์ อยอดทนในสิ่งที่ไม่คู่ควร เพราะมัน

จะทำให้คุณหมดความนับถือตัวเอง”

สนใจตัวเอง แต่อย่าเบียดเบียนคนอื่น

ถ้คุณสนใจเรื่องของตัวเอง คุณจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

ะสติที่คงอยู่กับตัว จะทำให้คุณรู้ทันปัญหา รู้ว่ามีอะไรผิดพลาด

มแก้ไขปรับปรุ ก่อนที่มันจะสร้างปัญหาให้ชีวิต “สนใจตัวเอง

มใช่เห็นแก่ตัว คุณต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น และอยู่ในโลกนี้

ย่างมีศักดิ์ศรี” ไม่สร้างความเดือนร้อนให้ใคร และไม่ยอมให้ใคร

มาสร้างความเดือดร้อนให้เรา

เลิกยุ่งเรื่องชาวบ้าน

คนส่วนใหญ่รู้ดีเรื่องคนอื่น แต่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวเอง

เพราะเรื่องชาวบ้าน มันสนุกเสมอ นั่นเป็นโลกใบเล็ก ที่คนมากมาย

ใช้หนีความเจ็บปวดของตัวเอง “ถ้าอยากให้ชีวิตสงบสุข อย่ายุ่ง

เรื่องชาวบ้าน อยเอาเรื่องคนอื่นมากองในหัว แค่เรื่องของ

ตัวเอง ก็ทำให้เราปวดหัวมากกินพอแล้ว” อะไที่ไม่เกี่ยวกับเรา

สงบปากสงบคำเอาไว้ แล้วคุณจะไม่เดือดร้อน

เลิกให้ชาวบ้านมายุ่งเรื่องคุณ

หลายคนคงเคยเจอปัญหาเพื่อนบ้าน คนรอบตัว คนรู้จักหรือ

แม้แต่เพื่อนฝูง ข้ามาวุ่นวายกับเราทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิต ความ

รัก คนรอบตัวต่งพากันสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคุณ ถามนั่นถามนี้

อย่างไร้กาลเทศะ บางคนรู้เรื่องของคุณดีกว่าตัวคุณเองเสียอีก

“ถ้าคุณไม่ชอบ ก็พูดออกไปอย่างชัดเจน ว่าไม่ชอบให้

ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว คำถามที่ไม่อยากตอบ เรื่องราวที่ไม่

อยากเล่า คุณไม่จำเป็นต้องฝืนหนผู้คนที่คุณรำคาญ” เวลา

ตัดสินใจอะไรเพื่อตัวเอง คุณควรเรียนรู้ที่จะแบกรับสิ่งต่างๆ ที่เข้า

มาในชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยว “แม้จะผิดพลาด ล้มเหลว ก็จงยินดีในการ

ตัดสินใจ อย่าปรึษา พึ่งพาคนอื่นไปทุกๆ เรื่อง เพราะเท่ากับว่าคุณ

เปิดบ้าน ให้คนนอกเข้ามาวุ่นวาย ชีวิตคุณจะวุ่นวายไม่หยุดหย่อน”

หยุดวิพากษ์วิจารณ

“การวิพากษ์วิจารณ์ เป็นกิจกรรมที่เสียพลังงานชีวิตไปอย่าง

ไร้ประโยชน์มากที่สุด” แค่วิจารณ์ใครสักคน คุณต้องใช้สมองคิด

เรื่องของเขา เรียบเรียงเรื่องราว วิเคราะหวิจัย เพื่อแสดงความคิด

เห็น ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งๆ ที่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เสีย

เวลาชีวิตเปล่าๆ

แค่หยุดวิพากษ์วิจารณ์ ชีวิตคุณจะเหนื่อยน้อยลงทันที

สูงราวข้อมูล และประเด็นร้อนต่างๆ ในชีวิตจะหายไปจากหัวส

คณจะไม่ต้องคิด ไม่ต้องพูด หรือทำอะไรฟุมเฟือยไร้ประโยชน์

เลิกคบพวกพ้องที่สร้างปัญหา

คุณต้องจัดการขั้นเด็ดขาด กับพวกพ้องที่ชอบสร้างปัญหา

ไม่วาจะเป็นเบียดเบียนเอาเปรียบ หเรื่องมาให้ อิจฉาริษยา ชอบ

ใส่ร้ายป้ายสี อยเกรงใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ไม่

อยากเสียน้ำใจ

หลายคนเก็บงูพิษไว้ใกล้ตัว เพราะคิดว่ายังไงก็เพื่อนกัน ถึ

จะร้ายกจบ้าง แต่เพื่อนคงไม่ทำร้ายเราหรอก ถ้าคุณเคยคิดแบบ

นั้นขอบอกว่าคุณกำลังคิดผิด “คนที่ชอบสร้างปัญหา เอาเปรียบ

ทำร้ายคนอื่น ไม่เคยมองเห็นใครเป็นเพื่อน แต่จะมองคนรอบ

ตัวว่าเป็นเหยื่อ”

ย็นลงอย่างชัดเจน

2.

กล้าปฏิเสธ

สิ่งที่คุกคามชีวิตคุณ

“เราทุกคนมีสิทธิ์ไม่คิด ไม่พูด ไม่ทำ

ในสิ่งที่สร้างความยุ่งยากให้ชีวิต

อะไรก็ตามที่คุกคามความสงบสุข

คุณมีสิทธิ์ปกป้องความรู้สึกตัวเอง

คนที่ปฏิเสธไม่เป็นมักถูกเอาเปรียบเสมอ

ผู้คนรอบตัวจะพร้อมใจกัน

เอาเรื่องยุ่งยากลำบากใจ

มายัดใส่มืออย่างไม่หยุดหย่อน”

ปฏิเสรอย่างมั่นคง

สรการยอมรับในสิ่งที่คุณเป็น

บางครั้งความรู้สึกเกรงใจคนอื่น กับความรู้สึกเกรงใจตัวเรง

มันตีกันจนสับสนวุ่นวาย ทำให้คนมากมายแม้จะกล้าปฏิเสธ แต่ก็

ทำได้แบบไม่มั่นใจ คือปฏิเสธจริง แต่ก็แบ่งรับแบ่งสู้ หรือหาข้ออ้าง

มารองรับความรู้สึกผิด เช่น เพื่อนมาขอยืมเงิน ถ้าไม่อยากให้ก็แค่

บอกว่ไม่ให้ แต่คนส่วนใหญ่มักทำแบบนั้นไม่ได้

แม้ว่าจะพูดว่ไม่ให้ยืมงิน แต่ก็ตามมาด้วยเหตผลมากมาย

ว่เพราะแบบนั้นเพราะแบบนี้ ลยให้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ คุณไม่จำเป็นต้อง

พูด หรืออธิบายอะไรเลย ไม่ให้ก็คือไม่ให้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ เวลาใคร

มาขออะไรที่ทำให้คุณลำบากใจ ถ้าจะปฏิเสธ จงทำไปอย่างมั่นคง

ซื่อตร เพื่อสร้างการยอมรับในแบบที่คุณเป็น “คนอื่นจะรู้ว่า คณ

ไม่ชอบความมักง่ย ไม่ชอบคุณช่างขอที่ไร้กาลเทศะ พวกเขา

จะไม่กล้าทำแบบนั้นกับคุณอีก”

ปฏิเสรตรงๆ ไม่ต้องหาข้ออ้าง

ปฏิเสธแล้วจบ ไม่ต้องหาเหตุผลมารองรับ เพราะยิ่ง

หาข้ออ้าง ยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกแย่” ถ้าจะปฏิเสธเพื่อจะไม่

ร่ำปยุ่งกับเรื่องเดือดร้อนของใครสักคน ที่มาขอความช่วยเหลือคุณ

มชวยก็คือไม่ช่วย ท่นั้นจบ ยิ่งคุณมีข้ออ้างเพื่อปฏิเสธมันยิ่งฟังดู

แย่ ทางที่ดีควรพูดความจริงออกไป แม้คนฟังจะไม่พอใจบ้าง แต

เขจะยอมรับ และเข้ใจอย่างช้ๆ ดีกว่าหาข้ออ้างสร้างภาพ อ้าง

นั่นอ้างนี่ที่ฟังยังไงก็ไม่ขึ้น

ถ้าเพื่อนสนิทคุณแต่งงาน แต่บ้านคุณอยู่ภาคเหนือ บ้าน

เพื่อนอยู่ภาคใต้ คุณต้องเสียค่ใช้จ่ายทั้งค่าเดินทาง ค่าแต่งตัว

และค่ซองช่วยงานเป็นเงินหลายพันบาท แต่ตอนนี้คุณถังแตก

หน็ดเหนื่อยกับปัญหาชีวิตตัวเอง หากไปไม่ได้ ทำไม่ได้ ลำบากใจ

เรื่องอะไร คุณก็ควรบอกตรงๆ แล้วจะส่งของขวัญไปให้ทางไปรษณีย์

ไม่ต้องยกแม่น้ำทั้ง 5 มาแก้ตัวเรื่องที่คุณไม่ไปงานแต่งงาน

เพื่อนเพราะพ่อตาตาย แม่ยายป่วย ลูกไม่สบาย เพื่อหาข้ออ้างที่

ฟังขึ้น “ยิ่งหาข้ออ้าง คุณจะยิ่งดูแย่ และไร้ความจริงใจ ถ้าคุณ

พูดออกไปตรงๆ ว่ไม่ไปพราะเดินทางไม่สะดวก เพื่อนอาจ

น้อยใจบ้าง แต่ไม่นานเขาจะเข้าใจคุณ”

วานที่ไม่เกี่ยวข้อง

ไม่อยากทำอย่าทำ

หลายคนบ่นว่า เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เจ้านาย ชอบโยนงาน

นอกเหนือหน้ที่มาให้ทำ สุดท้ายก็มัวแต่ไปทำงานแทรกซ้อน ทำให้

เกิดความเสียหายในงานตัวเอง

ถ้ามองโลกในแง่ดี คุณอาจคิดว่าการทำงานหนัก หลากหลาย

หน้ที่ เป็นการฝึกตน เราจะได้เรียนรู้งานหลายแบบ เรื่องนั้นก็ใช่

แต่ถ้คุณทำงานมานาน จนมีหน้าที่ชัดเจน คุณไม่จำเป็นต้องไปฝึก

ทำงนอะไรจับฉ่ยให้เสียเวลา อันนี้เราไม่พูดถึงทัศนะคติในการฝึก

ตนด้วยการทำงานหนัก แต่กำลังพูดถึงหลักความเป็นจริงของชีวิต

“ถ้าคุณรับเอางานที่ไม่เกี่ยวข้องมาทำ เพื่อช่วยเหลือ

เพื่อนหรือเจ้านาย ผลที่ได้ก็คือ คุณจะเสียงานตัวเอง เพราะ

งานคนอื่นที่แทรกข้ามา มันไม่ได้สร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน

ถ้าคุณมัวแต่ทำงานให้คนอื่น ผลกรประเมินสิ้นปีคุณจะกลาย

เป็นคนไร้ผลงาน เงินเดือนไม่ขึ้น ตำแหน่งไม่โต คนที่จะแบก

รับผลกรรมนั้นไว้ ก็คือตัวคุณเอง”

สิ่งที่ไม่ใช่ธุระ

อย่าแบกรับมาเป็นภาระ

เคยเห็นบางคนบ่นว่า ลูกของเขากับลูกของเพื่อนบ้านอยู่

รียนดียวกัน แล้วเพื่อนบ้านชอบฝากรับส่งลูกไปกลับโรงเรียน

ดย ตอนแรกๆ ก็ช่วยเหลือกันไปอย่างมีน้ำใจ แต่หนักๆ เข้า มัน

คคามความเป็นส่วนตัว เพราะแทนที่จะรอรับแต่ลูกตัวเอง กลับ

ต้อมารอรับลูกเพื่อนบ้านด้วย เสียเวลา นรำคาญ บางทีลูกเพื่อน

บ้านร้องกินขนม ร้องเอาของเล่น ก็ต้องซื้อให้

หลังโรงเรียนเลิก อยากจะแวะไปกินข้าวกินขนมอะไรกับลูก

เป็นการส่วนตัวก็ไม่ได้ ต้องพ่วงลูกเพื่อนบ้านไปด้วย ตอนนี้ไม่อยาก

รับฝากแล้ว แต่พูดไม่ออก ความจริงเรื่องนี้ไม่ควรเข้าไปยุ่งตั้งแต่

แร ลูกของใครคนนั้นก็ควรรับผิดชอบดูแลกันเอง ไม่ใช่เอามาโยน

ให้เป็นภาระคนอื่น

“อย่าไปรับอาสาแบกรับภาระคนอื่น เพราะความเกรงใจ

มันจะเป็นภาระคุณไปตลอดชีวิต ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ปฏิเสธ คณ

มีสิทธิ์ไม่รับภาระที่คนอื่นเอามาโยนให้ แต่คนที่โยนภาระ มา

“ห้คุณต่างหาก ที่ควรจะรู้สึกผิด”

พูดความรู้สึก เมื่อลำบากใจ

เมื่อไหร่ที่มีคนมาเบียดเบียน หรือมาขอความช่วยเหลืออะไร

แล้วคุณรู้สึกลำบากใจ แม้ว่าอยากจะช่วย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ก็จงพูด

ความรู้สึกของคุณออกไปให้เขารู้ พราะคนที่มาขอความช่วยเหลือ

คนอื่น ในเรื่องที่ยุ่งยาก มักไร้ความเกรงใจ และตื้อจะเอาให้ได้ คณ

ควรบอกเขาไปตรงๆ ว่คุณกำลังรู้สึกแย่ในสิ่งที่เขาทำ

บางครั้งอจทำให้เขารู้สึกตัว “คนบางคนก็เห็นแก่ตัว จน

ละเลยความรู้สึกคนอื่น ถ้าคุณพูดออกไป เขาจะเข้าใจคุณ

และเข้าใจความเห็นแก่ตัวของตัวเอง”

ก็แค่พูดว่าไม่

แล้วไม่ต้องคิดอะไรต่อ

ถ้าปฏิเสธไปแล้วก็แค่พูดว่า “ไม่” แล้วไม่ต้องคิดอะไรอีก บาง

คนไม่กล้าปฏิเสธ ใครมาขออะไรก็ให้ ลึกๆ ในใจที่ยอมๆ ช่วยเหลือ

ใครๆ กลัวว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องไปขอความช่วยเหลือคนอื่น แล้ว

เขาไม่ช่วย เลยต้องยอมๆ ไป ซื้อใจคนอื่นไว้ก่อน

“ถ้าคุณคิดแบบนั้น สิ่งที่คุณทำไป ก็เท่กับว่าเป็นการ

ลงทุน แล้วรู้ได้อย่างไรว่ ในเวลาที่เราเดือดร้อน คนอื่นจะช่วย”

คุณคงเคยได้ยินคนมากมายตัดพ้อต่อว่าเพื่อนว่า เขามาขอ

ไเราให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ที่เราเดือดร้อน เขากลับเ

น้ำใส่ แบบนี้มันจะเจ็บใจยิ่งกว่า

ไม่ต้องข่มใจลำบากช่วยเหลือใคร เพราะคิดว่าเป็นการลงทุน

คำสิ่ที่เขาข สร้างความลำบากยุ่งยาก ก็ปฏิเสธไปให้เด็ดขาดไม่

ต้องไปคิดกังวลถึงวันข้างหน้า ว่าเราจะไปขอให้เขาช่วยอะไร คณ

ก็แดแลชีวิตตัวเองในวันนี้ จัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างไม่ประมาท

ถกลัวไม่มีงิน ก็เก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินเอง ไม่ต้องหวังพึ่งคนอื่น

“จงจำไว้ให้ขึ้นใจ ตนคือที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น”

3.

เลือกที่ยืนแบบที่ชอบ

สร้างกลุ่มก้อน

ที่เป็นของตัวเอง

“คนเราเลือกกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะอยู่ ที่จะเป็นได้

ไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม

ดังนั้นจงอย่ายอมพ่ายแพ้

ให้กับสิ่งแวดล้อมที่สร้างทุก จงหยัดยื่นที่จะเอาชนะ

และเปลี่ยนทุกสิ่ง เลือกที่ยืนแบบที่ชอบให้ตัวเอง

แล้วใช้ชีวิตอยู่ในจุดนั้นอย่างมีความสุข”

ตามหาสิ่งที่ชอบ

ทั้งการงานและผู้คน

ความรักจะนำมาซึ่งพลัง และทางออกทุกด้านของชีวิต สิ่ง

สำคัญที่ต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต คืองาน “ดังนั้นอย่ายอมจำนน

กับสิ่งที่เป็นอยู่และคุณไม่อยากให้เป็น แต่จงตามหางานที่สร้าง

ความสุข และตามหาผู้คน ที่ทำให้คุณมีความสุข”

กลุ่มที่ใช่ ผู้คนที่เข้าใจ

จะทำให้จิตใจคุณเข้มแข็ง

คุณอาจต้องเข้าใจใครหลายๆ คน ในขณะที่ไม่มีใครสักคน

เข้าใจคุณ พวกพ้องที่ใช่ ที่ทำให้ชีวิตอบอุ่น จึงเป็นสิ่งสำคัญ “คุณ

ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะ แต่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อนดี เพื่อน

ที่จะนำพาสิ่งดีๆ มาให้ และประดับประคองจิตใจ ให้คุณอยู่

อย่างเข้มแข็ง” ถ้าตอนนี้คุณรู้สึกอ่อนล้า กับการอยู่ท่ามกลางผู้คน

ที่ไร้ความข้าใจ จงอย่ยอมแพ้ที่จะแสวงหาพวกพ้องที่เป็นของคุณ

หายตัวไปในวันหยุด

วันหยุดเป็นวันพิเศษ ที่คุณควรจะหยุดทุกอย่าง และใช้ชีวิต

อย่างเป็นตัวของตัวเอง “หยุดคิด หยุดทำ และใช้ชีวิตให้ช้าลง

เอาแต่ใจตัวเองบ้างก็ได้” บางครั้งการทำงาน คุณอาจต้องฝืนทำ

ในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ บางสิ่งที่อยากทำ กลับทำได้อย่างยากเย็น

คุณควรใช้วันหยุดหายไปจกความจำเจที่นำเบื่อ และเต็มที่กับชีวิต

ในแบบที่คุณชอบ

คบเพื่อนกลุ่มใหม่

กิคความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

ยิ่งป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ชีวิตเราจะเหงามากขึ้นนั่นเป็นสัจรรม

ชีวิ”ยิ่งอายุมากขึ้น เราจึงต้องยิ่งเปิดใจ เปิดรับผู้คนใหม่ๆ”

นที่หมือนเร คนที่แตกต่าง คนที่นทึ่ง มีคนมากมายในโลกนี้ให้

คุณได้จัก และเรียนชีวิตในแง่มุมต่างๆ จากพวกเขา เพื่อนกลุ่มใหม่

ผู้คนใหม่ๆ จะก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุด

ต่อยอดความฝันจากงานอดิเรก

“งานประจำ” อจเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตและ

ไม่ใช่คนทุกคน ที่จะเลือกทำงานที่ชอบได้ คุณอาจเป็นอีกคนหนึ่งที่

ต้องทำไร้กในงานที่ทำ แต่งานที่ทำนั้นไม่ใช่งานที่รัก

“งานอดิเรก เป็นสิ่งเติมเต็มชีวิตในยามที่เหนื่อยล และ

นำพาคุณไปสู่ความหวังความฝัน ให้คุณได้ทำในสิ่งที่รักอย่าง

มีความสุข”

คนมากมายในโลกนี้ ได้มีชีวิตใหม่และงานใหม่ที่มีความสุข

โดยการต่อยอดความฝัน จากงานอดิรกที่รัก กลายมาเป็นงานหลัก

ที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิต

A.

ปกป้อง

วันหยุดของคุณ

ในยุคที่เทคนโลยีสื่อสารคำวหน้ กลายเป็นรำเราทุก

องมาทำงานตลอด 24 ชั่วโมง สมัยก่อน เราทำงานกันวันล

งผง หมดเวลางาน ก็ใช้เวลาว่างทำอย่างอื่น สมดุลของชีวิตถูก

ตามธรรมชาติ แต่พอเรามีเทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัย สิ่ง

มาพร้อมความสะดวกสบาย กลับแลกมาด้วยการทำงาน 24 ชั่วโมง

จนหลายเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งๆ ที่ความจริงมันไม่ธรรมดา

“โลกของงานกับโลกส่วนตัว กำลังหลอมรวมเป็นหนึ่ง

เดียวกัน ที่สำคัญงานกำลังคุกคาม วลาส่วนตัวของคนบนโลก

อย่างช้ๆ ช่วงซิงเวลาดีๆ ของชีวิต ที่ควรแบ่งให้เป็นสัดส่วน

คนส่วนใหญ่ จะปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีสมัยใหม่ แต่คุณ

มีสิทธิ์เลือก มีสิทธิ์หยัดยืนในวิถีเดิม เพื่อจัดสรรพื้นที่ชีวิตให้

สมดุล”

วันหยุดก็คือวันหยุด

จงหยุดทุกอย่างที่เกี่ยวกับวาน

พอติดต่อง่ายสื่อสารได้สะดวก กลายเป็นว่า ดึกตื่นค่อน

คืนหัวหน้ายังขอให้ช่วยส่งเอกสารสำคัญที่จะใช้ในการประชุม

วันพรุ่งนี้ไปให้ พระการติดต่อสอสารมันง่าย เครื่องมือสื่อสาร

ก็มีประสิทธิภาพ สมัยนี้ส่งทุกอย่างผ่านออนไลนได้ทั้งหมด

ทั้งๆที่อยู่นอกเวลางาน แต่ เดี๋ยวคนนั้นขอนั่น เดี๋ยวคนนี้ขอนี่จนละ

เช้านอนอแล้ว ยังวิ่งหัวหมุนทำงาน แบบนี้มันไม่ใช่ มันผิด ไม่ควร

สร้างวัฒนธรรมแบบนี้ให้ตัวเอง

วันหยุด ควรเป็นวันหยุดที่มีคุณภาพ แต่หลายคนยังต้องมา

นั่งทำงานด่วน ส่งนแบบออนไลน์ เพื่อผลประโยชน์ของวันพรุ่ง

นี้ เพื่อบริษัท เพื่อเจ้านาย คุณอาจคิดว่าใครๆ เขาก็ทำกัน ถ้าเราไม่

ทำ เราอาจถูกหมายหัว มีผลกับความก้าวหน้าทางการงานการเงิน

“ความก้าวหน้าของคุณ ไม่ได้อยู่ที่กรทำงาน 24 ชั่วโมง

หรือตอบสนองความต้องกรทุกคน ตลอดเวลา แต่มันอยู่ที่

ว่า คุณทำงานอะไร ที่ไหน อย่งไร ถ้ามันผิดที่ ผิดทาง ต่อให้

ทำงานจนตาย คุณก็ไม่มีทางก้าวหน้าไปไหน”

ปิดเสียงโทรศัพท์บ้างก็ได้

โลกไม่แตกหรอก

ไม่ต้องทำถึงขนาดปิดโทรศัพท์ แต่คุณไม่จำเป็นต้องเปิด

เสียงไว้ตลอดวลา เพื่อรอรับความต้องการของผู้คน ถ้าคุณเปิด

โทรศัพท์ทิ้งไว้ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลางาน และเป็นเวลาที่คุณ

ต้องการโลกสวนตัว มันจะกลายเป็นว่า ใครนึกจะตะโกนเรียกคุณ

การโทรได้ยินแบบเสียงดัง ทำให้คุณต้องหันมามอง และรับฟัง

ณปิดเสียงโทรศัพท์ ผู้คนที่จะตะโกนเรียก จะเปลี่ยนมาฝา

วามไว้แก”เมื่อคุณพร้อมสู้กับผู้คน และสิ่งแวดล้อม คุณก็

แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ว่ามีใครโทรมาบ้าง แล้วค่อยๆ เลือก

ว่าจะโทรกลับไปหาใครบ้าง”

นอกเวลางาน คือเวลาของชีวิต

ไม่ต้องรู้สึกผิด หรือกลัวว่าสิ้นปีจะไม่มีโบนัส ถ้าคุณแบ่งแยก

เวลางาน กับเวลาส่วนตัวอย่างเด็ดขาด ฉันเคยเห็นคนที่ทำงานตลอด

24 ชั่วโมง มีชีวิตที่ตกต่ำย่ำอยู่ที่เดิม ในขณะที่คนทำงานตามเวลา

ปกติ กลับก้าวหน้าในอชีพอย่างรวดเร็ว คำตอบสำหรับเรื่องนี้ก็คือ

“เราควรทำสิ่งที่ต้องทำ ในเวลาที่ควรทำ”

ใช้เวลากับความสัมพันธ์

อย่างมีคุณภาพ

“สมดุลของชีวิต” ไม่ใช่แค่งิน งาน หรือสังคมเท่านั้น แต่

ความสัมพันธ์ของคุณกับคนสำคัญ เป็นสิ่งที่คุณต้องแบกรับ ดูแล

อย่างสมดุล แต่คนส่วนใหญ่ มักขอความเข้าใจจากคนใกล้ตัว อ้าง

ว่าเพื่องาน ช่วยเข้าใจหน่อย อ้างว่เพื่อครอบครัว ช่วยเข้าใจหน่อย

พอรู้ตัวอีกที ไม่เหลืใครใกล้ตัว แล้วก็โวยวายว่า ครอบครัวไม่

ที่ทำงานหนักทุกวันนี้ ทำไปเพื่อใคร

“ความรัก ทั้งแข็งแกร่งและเปราะบาง ถ้าคุณไม่ดูแลมัน

จะแตกสลาย กลายเป็นเศษชากทิ่มแทงจิตใจคุณ แต่ถ้าคุณ

ดูแลอย่างดี มันจะเป็นสายใยแห่งพลัง เกื้อหนุนค้ำจุน ให้คุณ

อยู่ในโลกนี้ อย่างมีความสุขและมีความหมาย”

ลด ละ เลิก พฤติกรรมเสพติด

ที่ทำให้เสียเวลาชีวิต

พูดถึงพฤติกรรมเสพติดของคนสมัยนี้ คงหนีไม่พัน

อินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์แชท ไลน์ เฟซบุ๊ค โลกออนไลน์คือปา

ของข้อมูลข่วสาร และความบันเทิง รวมทั้งสิ่งแปลกใหม่ตื่นตาตื่น

ใจ เป็นป้ใหญ่ที่คุณหลงข้าไปแล้ว คุณจะเดินถลำลึกไปเรื่อยๆ ห่าง

ไกลผู้คนไปอย่างซ้ำๆ

“ถ้าคุณป็นคนเสพติดสิ่งเหล่านั้น และไม่อยากเสียใคร

ไปมากกว่านี้ จง ลด ละ เลิก พฤติกรรมเสพติด ที่เกาะกินเวลา

ชีวิตคุณอย่างนเศร้า คุณไม่จำเป็นต้องเลิกเล่น แต่คุณควร

จัดสรรกรเล่น เพื่อดูแลสมดุลชีวิตด้านอื่น”

ทำให้เป็นมาตรฐาน

ที่คนอื่นยอมรับ

ถ้คนรอบตัวคุณ เป็นพวกทันสมัย เอาแต่ใจ ไม่ชอบการรอ

ย แต่ในขณะที่ตัวคุณ ทำอะไรตามลำดับขั้นตอนและความถูก

ลังหัวหนบางคน อยากได้อะไร ก็ต้องได้เดี๋ยวนั้น ไม่สนใจว่าเปืน

ถลาส่วนตัว เป็นวันหยุดพักผ่อนของคนอื่น วันหยุดก็โทรตามงาน

ด็กดื่นก็โทรมาตามงาน

หากคุณตอบสนองตลอดเวลา เขาจะติดเป็นนิสัย และเรียก

ร้องจากคุณมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณมีกฎเกณฑ์ตามมาตรฐาน

ของตัวเอง เขาจะเข้าใจอย่งช้าๆ และไม่รบกวนคุณ เพราะนี่คือ

มาตรฐานของคุณ ที่คุณยึดถือเป็นกฎเกณฑ์

ไม่ต้องกลัวว่าขัดใจเจ้านาย แล้วจะโดนกลั่นแกล้งในที่

ทำงาน เพราะถ้าเขาจะแกล้ง ต่อให้ยอมเป็นเบ๊ไปจนตาย เขา

ก็แกล้ง เรื่องแปลกแต่จริงก็คือ ฉันเห็นคนที่ปฏิเสธเจ้านายใน

วันหยุด หรือไม่ตามงานในเวลาส่วนตัว ถ้ไม่ใช่เรื่องคอขาด

บาดตาย กลับเป็นคนที่มีความสุขและความก้าวหน้าในชีวิต

แต่คนที่ยอมเป็น ทำทุกอย่างกลับหน้าตาหมองคล้ำและย่ำ

ต๊อกอยู่ที่เดิม เหมือนโดนดองไว้ใช้งาน”

5.

ก้าวตามปณิธาน

แแห่งความสุข

ความสุข คือวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ว่า

คุณจะเป็นใคร ทำอะไ ที่ไหน อย่างไร แต่รากฐานของความสุข

ของเราทุกคนไม่แตกต่างกัน “เมื่อชีวิตคุณเล็กลง คล่องตัวมาก

ขึ้น กรก้าวตามปณิธานแห่งความสุข ก็จะทำได้ง่ายขึ้น” คณ

จะได้สัมผัสกับมุมใหม่ของชีวิต รู้สึกสดชื่น เป็นการทวงคืนเวลาและ

พื้นที่ซีวิตให้กว้างมากพอ ที่จะจัดวางทุกด้านของชีวิตไว้อย่างสมดุล

ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดทุกๆ วัน

ก่อนจะพูดไม่ดีกับใคร หรือทำอะไรที่ไม่ดีงาม หรือว่ามีใคร

บางคน ทำให้คุณโกรธสุดขีด ลองคิดว่ ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของ

ชีวิต

“ความโกรธ ความเกลียด จะมลายหายไป คุณจะมีสติ

อยู่กับตัว และใช้ชีวิตให้ดีที่สุดทุกๆ วัน”

อยู่กับวันนี้ ทำให้ทุกอย่างให้ดีที่สุด

ไม่ต้องกังวลถึงอนาคต ไม่ต้องคิดถึงอดีต แค่มีลมหายใจอยู่

กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่อยูตรหน้า อย่างมีสมาธิ เวลาจะผ่านไปอย่าง

รวดเร็ว แต่ละวันจะผ่านไปอย่างมีชีวิตชีวา

“ชีวิตคุณจะไม่มีคำว่าเบื่อ มาบั่นทอนจิตใจเลยสักนิด”

เอาใจใส่ตัวเอง และคนที่คุณรัก

ยิ่งใกล้ยิ่งต้องใส่ใจ ไม่ใช่ยิ่งใกล้ ยิ่งไม่เกรงใจ ยังไม่สายเกิน

ไป ที่จะหันมาเอาใจใส่คนที่คุณรัก อย่างเสมอตันเสมอปลายทุกวัน

“เมื่อถึงวันที่พลัดพราก คุณจะได้ไม่ต้องเสียใจ”

หัดกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่คุณไม่ชอบ

ของอร่อยจะถูกล่อลวงด้วยการปรุงแต่งที่หลากหลาย สิ่งปรุง

แต่งเหล่นั้น มักไม่ดีกับสุขภาพเร แต่ของมีประโยชนจะซื่อตรง และ

ต้องซึมซับอย่างช้ๆ จนถึงรสชาติที่แท้จริง

“ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องตามใจปากให้น้อยลง หัดกินของ

ที่มีประโยชน์ แต่คุณไม่ชอบบ้าง แล้วสักวันคุณจะชอบมัน”

ความสุข กับสิ่งเล็กๆ ที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวับ

ไม่ต้องรอขาวดี ไม่ต้องมีเรื่องใหญ่ สิ่งเล็กๆ น้อยที่ผ่านเข้า

มาในชีวิตประจำวัน ก็สร้างสีสัน และความสุขได้ พียงแต่คุณต้อง

รบซึ้งไปกับมันไม่ว่าจะเป็นอาหารอร่อย ความหวานของขนม และ

เรื่องราวดีๆ ของคนรอบตัว

“แค่สุขทุกวันวันละนิดวันละหน่อย หัวใจคุณจะยิ้มแย้ม

อยู่เสมอ”

หยุดคิดเปลี่ยนคนอื่น อยู่กับความจริง

อย่าคิดเปลี่ยนแปลงใคร เพราะคุณจะทุกข์ใจอย่างแสน

สาหัส

“ถ้ามันยุ่งยากลำบาก กับความดื้อด้านของคนรอบตัว

จงหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง นั่นเป็นหนทางที่เป็นไปได้มาก

อ่านหนังสือ เพื่อคำตอบและคำถาม

เวลาที่สับสนเหนื่อยล้า บางเวลาที่ต้องการคนเข้าใจ จงอ่าน

หนังสือ เพื่อหาตอบให้ชีวิต

“คำตอบบางอย่างที่เพิ่งคันพบ อาจนำไปสู่คำถามสำคัญ

ที่จะพลิกชีวิตคุณไปตลอดกาล”

ทำให้มากกว่าพูด

อย่ามัวแต่บ่น มัวแต่พูดคำว่าจะ แล้วสุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้

สักอย่าง ทางที่ดี “พูดให้น้อยลง และทำให้มากขึ้น” แล้วสิ่งดีๆ

จะหมุนเข้ามาในชีวิตคุณ

เอาชนะความขี้เกียจ

เพราะชีวิตต้องการการดูแลหลายด้าน แต่ละด้านเป็นภาระ

บ้าง พลังบ้าง แต่เราก็ต้องยอมรับกันไป บางทีชีวิตก็มีเรื่องเยอะแยะ

และความเยอะแยะ มันก็ทำให้เราขี้เกียจ “บางสิ่งที่ทำแล้วดี แต่

ขี้เกียจ เป็นเรื่องที่คุณต้องฟันฝ้า” เอาชนะความขี้เกียจของคุณที่

ละนิด และทำอย่างเสมอ แล้วสักวัน คุณจะไม่รู้สึกขี้เกียจอีกเลย

ศรัทราและเชื่อมั่น ในความดีงาม

บางเวลาที่หวั่นไหว กับความไม่ยุติธรรมของโลก คุณอาจ

สับสน เมื่อเห็นความดีแพ้ความร้าย เห็นความรุนแรง ชนะความ

อ่อนโยน แม้จะอ่อนล้าเจ็บปวดกับบางสิ่ง ก็จงอย่าสิ้นศรัทธา และ

จงเชื่อมั่นในความดีงาม”สิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่ความจริงที่คงอยู่ แต่

เป็นผลลัพธ์ระยะสั้น ที่ต้องผันแปรไป” แล้วสุดท้ายความดีจะ

ชนะในทุกสิ่ง เพราะมันเป็นความจริง ที่ไม่เปลี่ยนแปลง

เสียง เรื่อง พอชีวิตเล็กลงก็ไปโลด

  • ผู้จัดทำ
  • 6240110101 นางสาวกนิษฐา ทองกรวด P10.
  • 6240110105 นางสาวจุฑาทิพย์ เปรี่ยมสุข P10.
  • 6240110126 นางสาวอภิญญา วันสา P10.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น